กล้องวงจรปิดจับภาพมือปืนวัยเกษียณ นั่งข้างกำแพงซัลโวเจ้าหนี้เฒ่าวัยเดียวกันขณะยืนด่าทวงหนี้ดับหน้าบ้าน
วันที่ 7 กันยายน 2563 เวลา 20.30 น. ร.ต.อ.พอดี ไชยคำหาญ รอง สว.สอบสวน สภ.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจาก มีเหตุตนทะเลาะวิวาทกัน ก่อนใช้อาวุธปืนยิงกันเสียชีวิต บริเวณริมถนนหน้าบ้านเลขที่ 215/1 ม.17 บ้านนาคำหลวง ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมด้วยตำรวจสืบสวน สภ.นาข่า ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี, ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ,แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี ,กู้ชีพเทศบาลตำบลนาข่า และอาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นถนนในหมู่บ้านนาคำหลวง มีชาวบ้านที่ทราบข่าวพากันมายืนมุงดูเหตุการณ์จำนวนมาก พบศพ นายประสาน ทิพย์ภูมิ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 ม.10 บ้านเหล่าศรีจารย์ ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี นอนหงายเสียชีวิตอยู่ริมถนนหน้าบ้านเลขที่ 215/1 สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซอง กระสุนลูกปลายเจาะเข้าบริเวณปากและใบหน้า จำนวน 8 รู กระสุนทั้งหมดฝังใน ส่วนทรัพย์สินมีค่ายังอยู่ครบ ห่างไปราว 5 เมตร พบขวดเหล้าดองยาของผู้ตายแตกเกลื่อนบนถนน ตรวจสอบด้านในกำแพงรั้วบ้าน พบซองปืนสีดำตกอยู่ ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และขออนุญาตเจ้าของบ้านตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บริเวณประตูหน้าบ้าน เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานประกอบคดี
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบมือปืนที่ ทราบชื่อภายหลังคือ นายบุญเพ็ง อายุ 62 ปี ชาวบ้านดงใหญ่ ต.เชียงหวาง อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี สวมเสื้อคลุมแขนยาว นุ่งกางเกงขายาว เดินก้มตัวผ่านกล้องวงจรปิดบริเวณประตูหน้าบ้าน แล้วไปนั่งเล็งปืนอยู่กำแพงในรั้วบ้าน ก่อนใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นยิงผู้ตายที่ยืนอยู่ห่างจากนอกรั้วหน้าบ้านราว 3 เมตร จากนั้นมือปืนได้เดินวนเวียนอยู่ในบริเวณบ้าน 2 รอบ ก่อนสตาร์ทเครื่องรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เทน่า ขับหลบหนีออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว
จากการสอบสวน นางสมยศ ขันดา อายุ 54 ปี เจ้าของบ้าน ให้การว่าขณะเกิดเหตุตนนอนป่วยอยู่ในบ้านกับหลานๆ ได้ยินเสียงผู้ตายมายืนตะโกนด่าตนเองด้วยคำหยาบคาย อยู่ที่นอกรั้วหน้าบ้าน พร้อมกับขู่จะเอาอาวุธปืนมายิงให้ตาย ตนเองกลัวไม่กล้าออกไป ได้เพียงแค่แง้มประตูออกมาดู ก่อนปิดประตูบ้านเข้าไปนอนพักผ่อน จากนั้นได้ยิงเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด กระทั่งมีตำรวจมาเคาะประตูบ้านร้องเรียกให้ตนออกมา จึงทราบว่าผู้ตายถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิตอยู่ริมถนนหน้าบ้านของตนเอง โดยไม่รู้ไม่เห็นว่าใครเป็นคนยิง เพราะตัวเองนอนป่วยอยู่ในบ้าน
ส่วนนางบัวเงิน สุขาวงษ์ อายุ 58 ปี ภรรยาผู้ตายและเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า สามีตนเป็นคนบ้านกองนาง ต.กองนาง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ส่วนมือปืนที่ก่อเหตุยิงสามีของตนเองที่ อยู่กินกันฉันท์สามีภรรยามา 5 ปี คือ นายบุญเพ็งฯ ซึ่งเป็นคนรู้จักกับเจ้าของบ้านหลังนี้ และรู้จักกับตนและสามีเป็นอย่างดี เพราะเคยนั่งกินเหล้าด้วยกันกับสามีเป็นประจำ และรู้สึกเสียใจที่สามีไม่ยอมฟังเสียงห้ามของตน เพราะเวลาสามีเมาเหล้าจะชอบเดินมาด่าเจ้าของบ้านหลังนี้ ซึ่งเป็นญาติกันกับตนเอง และมีศักดิ์เป็นหลานสาว เนื่องจากพ่อของเจ้าของบ้าน เป็นพี่ชายของตนเอง โดยเมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา หลานสาวขอยืมเงินตนและสามี จำนวน 2 หมื่นบาท แล้วไม่ยอมใช้คืน เมื่อมาทวงหนี้บ่อยครั้งทำให้หลานสาวไม่พอใจ จึงบอกให้ตนและสามีย้ายชื่อออกจากทะเบียนบ้าน ซึ่งตนและสามีได้ทำเรื่องย้ายชื่อออกจากสำเนาทะเบียนบ้านหลังนี้ ไปเป็นผู้อาศัยอยู่กับญาติที่บ้านเหล่าศรีจารย์ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมา เป็นที่เรียบร้อย
ก่อนเกิดเหตุสามีนั่งกินเหล้าที่บ้านพี่สะใภ้ของตนจนเมา ขณะจะกลับบ้านพัก สามีได้เดินมาทวงหนี้พร้อมกับตะโกนด่าหลานสาวอยู่ที่รั้วหน้าบ้าน แต่ไม่เห็นหลานสาวออกมาจากบ้าน ผ่านไปสักพักเห็น นายบุญเพ็งฯ เดินออกมานั่งหลบอยู่รั้วกำแพงบ้าน ใช้อาวุธปืนยิงสามีตนเอง จำนวน 1 นัด จนสามีตนล้มลงกับพื้นถนนเสียชีวิตคาที่ ก่อนที่นายบุญเพ็ง จะขี่รถจักรยานยนต์ออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว แล้วได้ใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์ของตนเองที่ จอดอยู่บนถนนหน้าประตูรั้วบ้านจนล้ม ทำให้ขวดเหล้าดองยาของสามีที่วางอยู่ในตะแกงรถจักรยานยนต์ตกลงพื้นถนนแตก ซ้ำมือปืนยังหันมามองหน้าและด่าตนด้วยคำหยาบคาย ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือน ตาของตนเองกระตุก แต่ไม่ถี่เหมือนวันนี้ที่กระตุกเกือบตลอดทั้งวัน”
ร.ต.อ.พอดี ไชยคำหาญ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุทราบว่า มือปืนที่ก่อเหตุคือนายบุญเพ็ง ที่รู้จักกับเจ้าของบ้านเป็นอย่างดี ส่วนสาเหตุคาดว่าผู้ตายมาทวงหนี้ และตะโกนด่าเจ้าของบ้าน ทำให้มือปืนไม่พอใจ เดินย่องเข้าไปนั่งเล็งปืนอยู่ที่กำแพงรั้วด้านในบ้าน แล้วยิงผู้ตาย1นัด ทางตำรวจเชื่อว่าอาวุธปืนที่ใช้ยิงผู้ตาย เป็นปืนลูกซองสั้นไทย กระสุนลูกปลายเจาะเข้าบริเวณปากและใบหน้าของผู้ตายล้มลงเสียชีวิตคาที่ และขณะนี้ทางเราได้ประสานตำรวจสืบสวน สภ.เพ็ญ ไล่ล่าติดตามตัวมาสอบสวนดำเนินคดี ส่วนเจ้าของบ้าน ให้การปฏิเสธไม่รู้เรื่องราวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ตำรวจมีข้อสงสัยว่า มือปืนที่ยิงผู้ตาย เข้ามาในบ้านหลังนี้ได้อย่างไรตอนไหน ทำไมเจ้าของบ้านถึงไม่รู้ ทางตำรวจจะได้เชิญตัวเจ้าของบ้าน มาสอบสวนปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้งต่อไป