อุดรธานี(ชมคลิป)ตร.ปปส.สกัดจับขบวนการขนยาไอซ์ยึด 860 กก.มูลค่า 600 ล้านบาทมากที่สุดในอีสาน


ตร.ปปส.สะกัดจับขบวนการขนยาไอซ์ยึด 22 กระสอบ 860 กก.มูลค่า 600 ล้านบาท ทะลักเข้ามาไทยจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ผู้ต้องหาได้ 2 รายสารภาพได้ค่าจ้างคนละ 1 แสนบาท เผยขบวนค้ายาเสพติดไฮเทคมีรถนำทางและติด จีพีเอส ด้วย
วันที่ 1 สิงหาคม 2563 เวลา 17.00 น. ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธร จ.อุดรธานี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวณิชย์ ผบช ภ.4 ,นายปราโมทย์ ธัญพืช รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี, นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ปปส. ,นายอดุล ประยูรสิทธิ์ ผอ.ปปส.ภาค 4, นายบัญชา โทสมัย ผอ.สปป. และพล.ต.สวราชย์ แสงผล ผบ.กกล.สุรศักดิ์มนตรี ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายกิตติทัต อุดพ้วย อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 253 หมู่ 1 ต.หนองคู อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ และนายชัยณรงค์ ทองไทย อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 186/2 หมู่ 15 ต.ปากช่อง .หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ โดยข้อกล่าวหา “ร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”
พร้อมของกลางยาไอซ์จำนวน 22 กระสอบน้ำหนัก 860 กิโลกรัม มูลค่า 600 ล้านบาท รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน 2 ฒฉ 4934 กทม.ด้านหลังต่อเติมตู้ใส่สินค้า ซึ่งเป็นรถใช้ลำเลียงยาไอซ์ และรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน นาวาร่า สีเทา หมายเลขทะเบียน ผน 4642 อุดรธานี ซึ่งเป็นรถนำทาง โดยตำรวจ ปปส.สามารถจับกุมได้บริเวณสี่แยกบ้านจั่น ถนนมิตรภาพ อุดรธานี -ขอนแก่น ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี
สืบเนื่องจากเวลา 01.30 น.สิงหาคม 2563 เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายประกอบด้วย บช.ปส., ภ.4, สำนักงาน ป.ป.ส., กกล.สุรศักดิ์มนตรี และตร. สืบสวนทราบว่ามีเครือข่ายนักค้ายาเสพติดที่ลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากจังหวัดชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะใช้รถยนต์ยี่ห้ออีซูช สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน 2 ฒฉ 4934 กทม. ลำเลียงยาไอซ์มาจาก จ.บึงกาฬ เข้ามาทาง อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร ผ่าน อ.บ้านดุง และ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ซึ่งมีรถนำทางแจ้งว่าตรงไหนมีด่าน โดยหัวหน้าขบวนการค้ายาเสพติดไฮเทคมากจะติด จีพีเอสรถที่ใช้ลำเลียงยาเสพติด เพื่อจะรู้ว่าถึงไหนแล้ว หรือจอดอยู่ที่ใด
จึงสนธิกำลังดักซุ่มบริเวณสี่แยกหนองเม็ก ต.หนองเม็ก อ.หนองหาน จ.อุดรธานี พบรถตรงตามที่ได้รับรายงาน จึงเข้าจับกุมรถขนยาไอซ์ และไล่ติดตามจับรถดูลาดเล่า ที่สี่แยกบ้านจั่น ต.หนองขอนกว้าง อ.เมืองอุดรธานี จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพ ว่าได้รับจ้างขนยาไอซ์จาก จ.บึงกาฬ ไปส่งที่กรุงเทพฯ โดยค่าจ้างขับรถลำเลียงยาไอซ์คนละ 100,000 บาท และพึ่งทำเป็นครั้งแรก ซึ่งเจ้าหน้าที่จะขยายผลไปถึงหัวหน้าขบวนการค้ายาเสพติดกลุ่มนี้ต่อไป
พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า สาเหตุที่ยาเสพติดเข้ามาทางภาคอีสานจำนวนมากขนาดนี้ว่า กลุ่มลำเลียงยาพวกนี้หากมีช่องทางในการลำเลียงยาเสพติดกลุ่มนี้ก็จะพยายามใช้ช่องว่างในการลำเลียง ไม่ว่าจะเป็นภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคตะวันตก สังเกตได้ว่าช่วงโควิด-19 ระบาดมีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและมีมาตรการคุมเข้ม กลุ่มผู้ค้าเหล่านี้ไม่มีการขนยาเสพติด แต่เมื่อยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินและมาตรการคุมเข้ม กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดพวกนี้จึงฉวยโอกาสและใช้โอกาสนี้ในการลำเลียงยาเสพติดเข้ามายังประเทศ เพื่อเป็นการระบายของให้ทัน ในส่วนของยาไอซ์หากมีจำนวนปริมาณเยอะขนาดนี้แน่นอนว่าจะมีการลำเลียงส่งต่อไปยังประเทศที่ 3 อย่างแน่นอน ซึ่งเคสนี้เป็นการจับกุมที่มากที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเท่าที่ได้ดำเนินการมา และจากการสืบสวนพบอีกว่าเป็นเคสที่ใกล้เคียงกับที่จังหวัดตาก และอำเภอสุไหงโกลก ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้