ตำรวจ สภ.กกตูม ออกหมายเรียก นายพิษณุพร ชัยมะโย (แอ๋ม) เพื่อเคลียร์ข่าวว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำโทรศัพท์มือถือแตก และลบข้อมูลมือถือในวันที่ 11 พฤษภาคม 63 และขณะสอบสวนตำรวจในช่วงแรกๆ ตำรวจใช้เท้าเตะขา ตบหลังข่มขู่ในทำนองให้ตนรับสารภาพความผิดเรื่องน้องชมพู่ และออกหมายจับ นายนริน คดีอนาจารเด็กอายุ 5 ขวบ ไม่เกี่ยวกับคดีของน้องชมพู่
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 63 จากกรณี ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ปี สูญหายจากบ้านพัก หมู่ 2 บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค.63 ที่ผ่านมา ซึ่งครอบครัวเร่งออกค้นหา จนกระทั่งพบน้องอยู่กลางป่าบนภูเขาเหล็กไผ ห่างจากบ้านราว 5 กม. ซึ่งตอนนี้เป็นเวลา 43 วันแล้ว แต่ยังไม่สามารถจับตัวผู้ก่อเหตุได้
ล่าสุดที่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร โดยในเวลาประมาณ 16.30 น. ( 23 มิ.ย.) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กกตูม ได้เดินทางมาหานายพิษณุพร ชัยมะโย (แอ๋ม) ชาวบ้านที่บ้านอยู่ข้างบ้านน้องชมพู่ หลังจากที่นายพิษณุพร ให้ข่าวว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำโทรศัพท์มือถือแตก และลบข้อมูลมือถือในวันที่ 11 พฤษภาคม 63 และขณะสอบสวนตำรวจในช่วงแรกๆ ตำรวจใช้เท้าเตะขา ตบหลังข่มขู่ในทำนองให้ตนรับสารภาพความผิดเรื่องน้องชมพู่
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กกตูม ได้นำหมายเรียกให้นายพิษณุพรฯ เพื่อจะรับตัวนายพิษณุพร เดินทางไปพูดคุยกับพนักงานสอบสวนที่สภ.กกตูม จะได้รับทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาบ้านนายพิษณุพร ไม่อยู่บ้านไปทำนาอยู่ จึงได้ให้นายพูนศรี ชัยมะโย พ่อของนายพิษณุพรฯ ไปรับนายพิษณุพรกลับมาที่บ้าน และได้มาเซ็นรับหมายเรียกและเดินทางไปพร้อมกับตำรวจ 
โดยก่อนไปกับตำรวจ นายพิษณุพร ได้เปิดใจกับสื่อว่าสิ่งที่ตนพูดเป็นความจริง เพราะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง ตนไม่ทราบชื่อหรือสังกัด สอบสวนตนในช่วงแรกๆที่โรงเรียนบ้านกกตูม ซึ่งตนจำวันที่ไม่ได้แล้ว โดยตำรวจได้ใช้เท้าเตะที่ขาของตนไม่ได้แรงมาก แต่ตนรับรู้ได้ว่าเป็นการข่มขู่ เพราะตำรวจได้บอกให้ตนรับสารภาพและรับผิดคดีชมพู่ ซึ่งตนเองไม่ได้เป็นคนทำ ตนไม่สามารถรับผิดได้ และการทำแบบนี้ตนก็รู้สึกไม่ดี ในช่วงแรก ๆ ตนยอมรับเครียดมากเหมือนกัน นอกจากนี้ ยังมีตำรวจ นำโทรศัพท์มือถือของตนไป พร้อมกับทำหน้าจอมือถือแตก เมื่อตำรวจนำมาส่งคืนตนถามว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ยอมบอก อีกทั้งคนที่นำมาคืนก็เป็นตำรวจคนละคน ซึ่งตำรวจยังมีการลบข้อมูลโทรศัพท์ในวันที่ 11 พฤษภาคม 63 ของตนออกไปด้วย
จากกรณีนี้ตนไม่ได้ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชดใช้ แต่เพียงอยากรู้ว่าใครเป็นคนทำโทรศัพท์ตนแตก เพราะตำรวจไม่บอกตน โดยตนก็เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาคนหนึ่ง อยากได้รับความเป็นธรรม เพราะการที่ตนไม่ได้ผิดแต่มาถูกข่มขู่ ตนก็รู้สึกไม่ดี นายพิษณุพรกล่าว..
ล่าสุด ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนได้รวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับชาย 1 ราย ทราบชื่อนายนริน เชื้อคมตา อายุ 48 ปี อยู่ที่ 56 หมู่ที่ 2 บ้านกกกอก ตำบลกกตูม อำเภอดงหลวง จังหวัดมุกดาหาร ในข้อหา ” กระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ” (ตามหมายจับของศาลจังหวัดมุกดาหารที่ 89/2563 ลงวันที่ 24 มิ.ย.63) หลังพบก่อเหตุในคดีทำอนาจารเด็กหญิงวัย 5 ขวบ ซึ่งเป็นหลานสาว ก่อนเกิดเหตุน้องชมพู่เสียชีวิต โดยศาลอนุมัติออกหมายจับแล้ว ทั้งนี้ตำรวจกำลังนำตัวมาสอบสวนที่ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ว่าชายคนดังกล่าวะมีส่วนเกี่ยวของกับคดีการเสียชีวิตของน้องชมพู่หรือไม่ ซึ่งนายนรินฯ ผู้ต้องสงสัย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปสอบสวนคดีของน้องชมพู่แล้วหลายครั้ง เจ้าตัวได้ปฎิเสธ…
กล่าวคือขณะเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนคดีการเสียชีวิตของด.ญ.อรวรรณ หรือน้องชมพู่. วงศ์ศรีชา นั้น พบว่าในหมู่บ้านที่เกิดเหตุ เมื่อประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2563 เวลากลางวัน มี ด.ญ.หนึ่ง (ขอสงวนชื่อนามสกุล) อายุประมาณ 5 ปีขณะที่เล่นอยู่หน้าบ้านพัก บ้านกกกอก โดยมีผู้ปกครองอยู่ภายในบ้าน ผู้ต้องหาได้ใช้มือกระทำอนาจาร จน ด.ญ.หนึ่ง ต้องเข้ารับการรักษาตัวโรงพยาบาลเต่างอย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวน จนทราบว่าคนร้ายคือ นายนริน เชื้อคมตา ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.กกตูม ได้ออกหมายจับนายนรินฯต่อศาลจังหวัดมุกดาหาร ชุดสืบสวนจึงได้จับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวให้ นายนรินฯทราบโดยยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และยังไม่เคยถูกจับมาก่อน และนายนรินฯให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
โดยนายนรินฯให้การว่า มีบ้านอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันกับ ด.ญ.หนึ่ง เคยถูกจับกุมข้อหาทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต สภ.กกตูม เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2557 ได้จับกุมตัวที่ ถ.เลี่ยงเมือง ต.นาสีนวน อ.เมือง จ.มุกดาหาร อนึ่ง ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบคดีต่างๆที่เกิดขึ้นในบ้านกกกอก เพื่อความปลอดภัยของทุกคนในหมู่บ้านดังกล่าว และเน้นที่เด็กและเยาวชน โดยคดีนี้ยังไม่มีพยานหลักฐานเกี่ยวข้องกับคดีน้องชมพู่ และอยู่ในระหว่างการสืบสวนต่อไป
อนุศักดิ์ – เสาวภา แสนวิเศษ // มุกดาหาร
