สืบสานประเพณีแห่เทียนพรรษา และถวายผ้าอาบน้ำฝน ท่ามกลางเสียงเยาวชนขอให้ผู้ใหญ่งดดื่มเหล้าเข้าพรรษา เนื่องในเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ณ วัดศิริชัยเจริญ ภายในเทศบาลตำบลโนนสัง อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู พระครูโกวิทสุตาภรณ์ ดร. (พระมหาสมดีฯดร.)ประธานคณะสงฆ์ พร้อมด้วย พ.อ.อ.กิตติพงษ์ ยอดไชยเพ็ชร นายอำเภอโนนสัง ประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วย นายอำนาจ สรสิทธิ์ นายกเทศมนตรีตำบลโนนสัง คณะผู้บริหารเทศบาลตำบลโนนสัง นางวลักขณา สาระกิจจานนท์ ผอ.โรงเรียนโนนสังวิทยาคาร โรงเรียนโนนสังวิทยาสรรค์ นำคณาจารย์ บุคลากร และพุทธศาสนิกชน ร่วม 300 คน เข้าร่วมกิจกรรมร่วมใจทํานุบํารุงสืบสานพุทธศาสนา วันอาสาฬหบูชาและสืบสานประเพณีเข้าพรรษา ประจำปี 2568
ทั้งนี้เพื่อเป็นการสืบทอดวัฒนธรรม และขนบธรรมเนียมประเพณีไทยอันดีงาม ตลอดจนเป็นการส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชน ได้มีโอกาสร่วมทำบุญถวายเทียนพรรษา เนื่องในเทศกาลวันเข้าพรรษา เป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ และแสดงออกถึงความรักความสามัคคีในหมู่คณะโดยมีขบวนฟ้อนรำของผู้นำสตรีในตำบลโนนสัง ร่วมแห่เทียนพรรษา โดยได้เคลื่อนขบวนจากวัดศิริชัยเจริญ มีขบวนนางรํา สร้างความสวยงามตลอดเส้นทาง ไปตามถนนภายในเขตเทศบาลตำบลโนนสัง จากนั้นร่วมกันถวายผ้าอาบน้ำฝนและถวายเทียนพรรษาแด่พระภิกษุสงฆ์ เป็นอันเสร็จพิธี
พระมหาสมดีฯดร.เจ้าอาวาสวัดศิริชัยเจริญ กล่าวว่าวัดศิริชัยเจริญเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนิกชนในเขตเทศบาลตำบลโนนสัง โดยเป็นศูนย์เผยแผ่พระพุทธศาสนา มีเสนาสนะ ตลอดจนหลวงพ่อใหญ่เป็นพระพุทธรูปที่มีมนต์เสน่ห์และศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่อำเภอโนนสังและพุทธศาสนิกชนมา 100 กว่าปี ซึ่งพุทธศาสนิกชนยังคงไว้สำหรับประเพณีเข้าพรรษาเป็นประเพณีของชาวพุทธที่มีมาแต่โบร่ำโบราณซึ่ง เป็นประเพณีที่พระสงฆ์ที่เป็นสาวกของพระพุทธเจ้าจะต้องบำเพ็ญเพียรภาวนาตลอดระยะเวลาสามเดือน และพุทธศาสนิกชนทั้งหลายจะต้องถวายเทียนพรรษาผ้าอาบน้ำฝนตลอดจนเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับพระสงฆ์
ทั้งนี้ชาวโนนสังได้เล็งเห็นความสำคัญจึงได้จัดพิธีแห่เทียนเข้าพรรษาโดยพระครูโกวิทสุตาภรณ ดร. พร้อมนายอำเภอโนนสัง ผู้นำชุมชนทุกหมู่บ้าน บริษัทห้างร้านเอกชนและพี่น้องชาวโนนสังได้สืบสานประเพณีอันดีงามนี้ให้กับลูกหลานชาวโนนสังร่วมขบวนแห่เทียนพรรษาและถวายเทียนพรรษากันอย่างพร้อมเพรียง ในขณะเดียวกันเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจังหวัดหนองบัวลำภู ถือโอกาสให้เยาวชนร่วมเชิญชวนผู้ปกครองพรรษานี้ งดเหล้าเข้าพรรษาเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และเทิดพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 10 เนื่องในวันเฉลิมพระชนพรรษา ครบ 73 พรรษา
พระมหาสมดีฯดร.กล่าวต่อถึงความสำคัญของวันอาสาฬหบูชาและประเพณีแห่เทียนพรรษา ซึ่งอยู่ในวาระสำคัญ2 วันติดต่อกันคือเป็นวันอาสาฬหบูชา วันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี (หรือเดือน 8 หลังในปีที่มีอธิกมาส) ถือเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เพราะเป็นวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญ 3 ประการในพุทธศาสนา เรียกว่า “วันธรรมจักร” หรือ “วันพระธรรม” ได้แก่:เป็นวันที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนา คือ ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร แก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 / เป็นวันที่เกิดพระสงฆ์รูปแรกขึ้นในโลก คือ พระอัญญาโกณฑัญญะ ผู้ที่ได้ดวงตาเห็นธรรม และบวชเป็นพระภิกษุโดยเอหิภิกขุอุปสัมปทา และ 3. เป็นวันที่พระรัตนตรัย ครบองค์ 3 คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ความสำคัญทางศาสนา:เป็นจุดเริ่มต้นของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเป็นวันครบรอบของการเกิดพระสงฆ์รูปแรกในโลกเป็นโอกาสให้พุทธศาสนิกชนได้ระลึกถึงพระธรรมคำสอน และเจริญธรรมปฏิบัติธรรม
สำหรับประเพณีแห่เทียนพรรษา ประเพณีแห่เทียนพรรษา เป็นประเพณีที่จัดขึ้นในช่วงวันเข้าพรรษา โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง โดยมีวัตถุประสงค์และความหมายดังนี้:ความสำคัญของการแห่เทียนพรรษา:เพื่อ ถวายเทียนพรรษา แด่พระภิกษุสงฆ์ไว้ใช้ในช่วงเข้าพรรษา (3 เดือน) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พระสงฆ์จะจำพรรษาอยู่ ณ วัดใดวัดหนึ่งโดยไม่จาริกไปที่อื่น เป็นการ สืบสานประเพณีและศิลปวัฒนธรรมไทย โดยการแกะสลักเทียนอย่างงดงามเป็นขบวนแห่ที่วิจิตรงดงามส่งเสริม ความสามัคคีในชุมชน เพราะการทำเทียนพรรษาและการแห่เทียนมักเกิดจากความร่วมมือของชาวบ้าน ลักษณะของขบวนแห่:มีขบวนรถเทียนที่ตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามการแสดงศิลปวัฒนธรรม เช่น รำ ฟ้อน และดนตรีพื้นบ้านเป็นทั้งงานบุญและงานประจำปีที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว
กล่าวโดยสรุป วันอาสาฬหบูชา มีความสำคัญในฐานะวันแรกที่พระพุทธเจ้าทรงประกาศธรรม เป็นวันกำเนิดพระสงฆ์ และพระรัตนตรัยครบองค์ ส่วนประเพณีแห่เทียนพรรษา แสดงถึงความศรัทธาของชาวพุทธในการสนับสนุนพระสงฆ์และการรักษาพระธรรมวินัย อีกทั้งยังเป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยอันทรงคุณค่า
สุภัชรกานต์ แก้วสิงห์ ขตว.หนองบัวลำภู
