ชาวหนองบัวลำภู กว่า 3,100 คนแต่งกายด้วยผ้าถุงสีชมพู เสื้อขาว ผ้าสไบสีชมพู ร่วมพิธีรำบวงสรวงสู่ขวัญเมือง เนื่องในวันสถาปนา ครบรอบ 31 ปี จัดตั้งเป็นจังหวัดหนองบัวลำภู ตามฮีตบ้านคองเมืองให้อยู่เย็นเป็นสุข
นายสุรศักดิ์ อักษรกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู รักษาการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู นำหัวหน้าส่วนราชการ ตุลาการ ทหาร ตำรวจ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพ่อค้าคหบดี ประชาชนจังหวัดหนองบัวลำภู ทุกพื้นที่ร่วมประกอบพิธีกรรมบวงสรวงสถานที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในเขตอำเภอเมืองหนองบัวลำภู เริ่มจาก พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 ศาลหลักเมือง ศาลปู่หลุบ หอสองนาง อนุสาวรีย์พระวอ – พระตา พิพิธภัณฑ์อัฐบริขารหลวงปู่ขาว อนาลโย และสุดท้ายที่พิธีบวงสรวงดวงพระวิญญาณ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภายในสนามสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอเมืองหนองบัวลำภู ตามฮีตบ้านคองเมืองมาแต่โบราณกาล
โดยในวันที่ 1 ธันวาคม 2536 อำเภอหนองบัวลำภู ได้รับการประกาศจัดตั้งเป็นจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นลำดับที่ 74 และเป็นหนึ่งใน 3 จังหวัดคือจังหวัดอำนาจเจริญและจังหวัดสระแก้ว ที่ได้รับการสถาปนาจัดตั้งขึ้นเมื่อ วันที่ 1 ธันวาคม 2536 มีคำขวัญประจำจังหวัด คือ “ ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อุทยานแห่งชาติภูเก้าภูพานคำ แผ่นดินธรรมหลวงปู่ขาว เด่นสกาวถ้ำเอราวัณ นครเขื่อนขันธ์กาบแก้วบัวบาน “ มีตราประจำจังหวัด เป็นภาพพระบรมรูปของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประทับยืนหน้าศาลของพระองค์ ซึ่งตั้งอยู่ริมหนองบัว มีปลาสร้อยขาวหรือปลาขาวสร้อยเป็นสัตว์น้ำประจำจังหวัด และมีต้นพะยูงและดอกบัวหลวง เป็นต้นไม้และดอกไม้ประจำจังหวัด
เนื่องในโอกาสที่วันที่ 1 ธันวาคมของทุกปี ชาวจังหวัดหนองบัวลำภู ทุกภาคส่วนจึงถือเอาโอกาสนี้เป็นวันประกอบพิธีสู่ขวัญบ้านสู่ขวัญเมือง ภายในสนามสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งปีนี้(1 ธค.67)จังหวัดหนองบัวลำภู มีอายุครบรอบ 31 ปีจังหวัดหนองบัวลำภู จึงได้จัดให้มีพิธีการต่าง ๆ ขึ้น เพื่อน้อมรำลึกและสักการะบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง รวมถึงบรรพบุรุษที่สร้างบ้านแปงเมืองหนองบัวลำภู
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีบวงสรวงในภาคเช้า ในภาคบ่ายผู้ร่วมพิธีพร้อมใจกันมาประกอบพิธีสู่ขวัญบ้านสู่ขวัญเมือง และกิจกรรมรำบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สำหรับการรำบวงสรวงในปีนี้ มีผู้นำสตรี สุภาพบุรุษจากทุกหมู่บ้านในจังหวัดหนองบัวลำภู มากกว่า 3,100 คนที่นางรำได้ร่วมกันแต่งกายด้วยเสื้อสีขาว ผ้าถุงและสไบเป็นสีชมพู โดยเฉพาะผ้าขิดสลับหมี่ “ลายบัวลุ่มภู” ลายประจำจังหวัดของเรา ซึ่งถือเป็นการสร้างการรับรู้ให้เกิดแก่ประชาชนทั่วประเทศได้อย่างแพร่หลายเป็นอย่างดี ซึ่งการแต่งกายอันเป็นอัตลักษณ์ของจังหวัดในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการช่วยกันส่งเสริม สืบสานภูมิปัญญาของจังหวัดของเราแล้ว ยังจะเป็นการประชาสัมพันธ์ลายผ้าของบ้านเราให้มีการพูดถึง บอกต่อกันออกไปให้มากขึ้น ผ่านผู้นำระดับประเทศจากการประชุมครั้งสำคัญทุกครั้งที่ผ่านมาอีกด้วย
สุภัชรกานต์ แก้วสิงห์ หนองบัวลำภู