ภาคเอกชนร่วมชุมชนบ้านหนองหล่มใหญ่ ส่งมอบถังประปาขนาด 48,000 ลิตร กู้วิกฤตภัยแล้งให้ชุมชน
ที่บ้านหนองหล่มใหญ่ หมู่ที่ 3 ต.ดอนหว่าน .เมือง จ.มหาสารคาม นายนันทวิทย์ นาคแสง นายอำเภอเมืองมหาสารคาม เป็นประธานเปิดโครงการจัดการน้ำเพื่อชุมชนโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ในการสร้างระบบประปาหมู่บ้านโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ถังบรรจุน้ำมีความจุ 48,000 ลิตร ก่อนส่งมอบให้กับชาวบ้านหนองหล่มใหญ่ แก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำสะอาดสำหรับอุปโภคบริโภคให้กับชุมชน
ภายใต้ความร่วมมือของมูลนิธิโคคา-โคลา ร่วมกับสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน ศูนย์พัฒนาชนบทผสมผสาน มหาสารคาม (ศูนย์มีชัย) และชาวบ้านบ้านหนองหล่มใหญ่เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 150 คน
โดยมีกิจกรรมร่วมกันทาสีถังประปาขนาดความจุ 48,000 ลิตร วางระบบประปาใหม่รอบหมู่บ้านระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร รวมไปถึงกิจกรรมปลูกผักสวนครัวแบบยกสูง เพื่อความสะดวกกับผู้สูงอายุ โดยใช้ระบบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ และการปลูกต้นยางนา ทั้งพื้นที่ชุมชนและพื้นที่ป่า เพื่อเพิ่มปริมาณป่าไม้ และสามารถใช้ประโยชน์จากป่าได้ รวมถึงเป็นจุดเรียนรู้ให้กับชุมชนอื่น ๆ ไปประยุกต์ใช้กับชุมชนของตน
นายศราวุธ พันธุ์ชมพู ผู้ใหญ่บ้านหนองหล่มใหญ่ หมู่ 3 ต.ดอนหว่าน อ.เมือง จ.มหาสารคาม กล่าวว่า ในส่วนของชุมชนบ้านหนองหล่มใหญ่ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา บ้านหนองหล่มใหญ่ประสบปัญหาเรื่องน้ำ ที่ตั้งของหมู่บ้านอยู่บนที่ดอน รวมไปถึงทุกพื้นที่ในตำบลดอนหว่านทั้ง 9 หมู่บ้าน
ส่งผลให้ระบบประปาของหมู่บ้านมีความจำเป็นต้องเปิด-ปิดน้ำเป็นเวลา ซึ่งสถานการณ์ภัยแล้งจะหนักในช่วงเดือน ก.พ. ถึง พ.ค. จะประสบเรื่องน้ำมาก ต้องขอรถน้ำจาก อบต. มาช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน หอประปาแต่ละหอถัง น้ำไม่เพียงพอ จนมาได้ถังประปาขนาดความจุ 48,000 ลิตรมาช่วย ก็จะช่วยให้ชาวบ้านในหมู่บ้าน 221 ครัวเรือน ประชาชน 755 คน มีน้ำใช้ได้ตลอดทั้งปี ชาวบ้านมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ด้านนายธงชัย ศิริธร กรรมการมูลนิธิโคคา-โคล่า ประเทศไทย กล่าวว่า ทางมูลนิธิได้ร่วมกับชาวบ้านในการทำประปาหมู่บ้าน เนื่องจากในช่วงฤดูแล้งชาวบ้านในหมู่บ้านขาดแคลนน้ำ น้ำไม่พอ ทางมูลนิธิได้มีการประสานกับสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน ร่วมกันจัดทำโครงการให้กับชาวบ้าน 200 กว่าหลังคาเรือน ประชากรกว่า 700 คน ขนาดความจุของถังน้ำ บรรจุน้ำได้ 48,000 ลิตร มีการเดินระบบน้ำยาว 2 กม. ทั่วหมู่บ้าน โดยใช้ระบบโซล่าเซลล์ พลังงานแสงอาทิตย์ ให้ชาวบ้านได้มีน้ำกินได้ใช้ได้อย่างเพียงพอ ซึ่งกิจกรรมดี ๆ แบบนี้ไม่ได้มีแค่เพียง จ.มหาสารคามเท่านั้น แต่ยังกระจายไปยังจังหวัดอื่น ๆ เช่น ขอนแก่น บุรีรัมย์ นครสวรรค์ ปทุมธานี และอีกหลายจังหวัด ซึ่งโครงการนี้ เป็นโครงการซึ่งมูลนิธิ ตั้งเป้าไว้ว่าเราจะคืนน้ำสู่ธรรมชาติให้ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ในการผลิตเครื่องดื่มคืนสู่ชุมชนและธรรมชาติ
นายสนิท สุวรรณศร ที่ปรึกษาสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน กล่าวว่า ต้องขอบคุณมูลนิธิโคคา-โคล่าที่นำโครงการดี ๆ เข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านชุมชนบ้านหนองหล่มใหญ่ ในเรื่องของการจัดการน้ำเพื่อชุมชนโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์ นอกจากชาวบ้านจะได้น้ำกินน้ำใช้ ชาวบ้านยังได้มีอาชีพ มีการปลูกผัก ปลูกต้นไม้ให้ป่าอยู่คู่กับชุมชน ถือเป็นโครงการดี ๆ ของภาคเอกชนที่ได้มาช่วยเหลือชาวบ้าน ถือเป็นการคืนกำไรสู่สังคม สู่ชุมชนอย่างแท้จริง