เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่บ้านเลขที่ 30 หมู่ 15 บ้านดงขี้เหล็ก ต.สำโรง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ หลังได้รับแจ้งว่าพบ นายปรัชญา อาจสาลี อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิศรีสะเกษสงเคราะห์ จุดอำเภออุทุมพรพิสัย ผู้มีจิตอาสาช่วยเหลือสังคม ป่วยติดเตียงด้วยโรคเนื้องอกในสมอง จนต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงมานานเกือบปี ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ไปพบกับ นายธนรัชย์ เจตนา อายุ 52 ปี และนางนฐภรณ์ เจตนา อายุ 53 ปี พ่อและแม่ของ นายปรัชญา กำลังช่วยกันดูแลลูกอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันได้มี นายศราวุธ ทรงโฉม นายอำเภออุทุมพรพิสัย พร้อมด้วย พระครูวินัยธร ศักดิ์มนตรี ปภัสโร หรือพระอาจารย์โชติ เจ้าอาวาสวัดศรีสมบูรณ์รัตนาราม และผู้ใจบุญ เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจและมอบสิ่งของพร้อมเงินจำนวนหนึ่งเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นอีกด้วย
นางนฐภรณ์ เจตนา อายุ 53 ปี กล่าวว่า นายปรัชญา ลูกชายตน ได้แต่งงานกับภรรยาและมีลูกด้วยกัน 3 คน เป็นลูกชายทั้งหมด คนเล็กอายุ 5 ขวบ คนกลาง 6 ขวบ และคนโตอายุ 9 ขวบ ก่อนหน้านี้ นายปรัชญา ลูกชายตน สมัยยังเด็กอายุ 15 ปี มีนิสัยชอบช่วยเหลือคน และชอบงานจิตอาสา เป็นชีวิตจิตใจ จึงได้ไปช่วยงานของมูลนิธิช่วยเหลือสังคมมาตั้งแต่เด็ก เรียนด้วยทำงานด้วยเรื่อยมาจนได้รับตำแหน่งเป็นหัวหน้าหน่วยกู้ภัยจุดอำเภออุทุมพรพิสัย จนถึงปัจจุบันเกือบ 20 ปี แล้ว และได้ทำงานประจำเป็นลูกจ้างของโรงพยาบาลอุทุมพรพิสัย ตำแหน่งพลขับรถตู้พยาบาล ใช้เวลาว่างและวันหยุดนำทีมช่วยเหลือผู้อื่นที่ประสบเหตุ โดยใช้รถส่วนตัวและซื้ออุปกรณ์เครื่องมือในการช่วยเหลือผู้อื่นด้วยเงินของตนเอง ช่วยเหลือคนมาแล้วนับไม่ถ้วน โดยไม่คิดย่อท้อ และไม่คิดเลิกทำ อีกทั้งตนและสามีก็เคยเป็นกู้ภัยมาแล้วเช่นกัน
ต่อมาเมื่อช่วงเดือน พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา ลูกชายเริ่มมีอาการบ่นปวดหัว ไปหาหมอหลายครั้ง ช่วงนั้นก็ได้แต่ยามากิน ต่อมาเริ่มมีอาการรุนแรงถึงขั้นเดินเซ และอาเจียน จึงได้พาไปหาหมออีกรอบและตรวจพบก้อนเนื้อเท่าลูกปิงปองในสมอง จากนั้นจึงได้ส่งตัวไปรักษาที่ รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี เพื่อทำการผ่าตัด และกลับมาพักฟื้นอยู่ที่บ้านไม่นาน อาการก็เริ่มกลับมาอีก จึงต้องพากลับไปหาหมอและทำการผ่าตัดซ้ำอีก รวมผ่าตัดแล้วจำนวน 4 ครั้ง จากนั้นก็กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงมานานกว่า 6 เดือนแล้ว
สิ่งของจำเป็นที่ต้องใช้เป็นประจำและสิ้นเปลืองมากที่สุดในขณะนี้ คือผ้าพันแผล และอุปกรณ์ทำแผล เพราะต้องล้างแผลทุกวัน ประกอบกับก้อนเนื้อที่งอกออกมาเริ่มมีขนาดใหญ่โตขึ้นเท่าลูกมะพร้าว จึงต้องใช้อุปกรณ์เหล่านี้มากเป็นพิเศษ โดยส่วนตัวตนก็สงสารลูก ลูกก็ช่วยเหลือผู้อื่นมาทั้งชีวิต ไม่คิดว่าลูกจะต้องมาเจอโรคร้ายจนต้องนอนติดเตียงนานแบบนี้ นอกจากลูกชายตนแล้ว ในบ้านหลังนี้ตนยังต้องดูแลแม่วัย 70 ปี และป้า ซึ่งเป็นพี่สาวแม่ วัย 78 ปี ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ในบ้านอีก 2 คน จนบ้านดูเหมือนเป็นโรงพยาบาลขนาดย่อมไปแล้ว ส่วนผู้ใจบุญอยากจะช่วยเหลือหรือสอบถามอาการสามารถโทรศัพท์สอบถามได้ที่ โทร 08-6875-9219.
ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน