ชัยภูมิ – ฝนตกหนักน้ำทะลักซัดทำนบดินกั้นน้ำขาดชาวบ้านกว่า100หลังคาเรือนเดือดร้อนวอนหน่วยงานช่วยแก้ไขด่วน


ชาวบ้านกว่า 30 คนนำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายของทำนบดินกั้นน้ำคลองบง บ้านโคกผงาด หมู่ 2 ต.โคกกรวดเชื่อมต่อวัดป่า โคกผงาด และ บ.โคกเพชร ต.โคกเพชร อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ถูกแรงน้ำซัดจนขาดเสียหาย กว้างกว่า 10 เมตร ลึก5เมตร โดยถนนสายดังกล่าวมีชาวบ้านกว่า100ครัวเรือนที่ใช้สัญจรไปมาในถนนเส้นนี้ตลอด โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นช่วงที่ชาวบ้านจะต้องเก็บเกี่ยวผลผลิตออกสู่ตลาด รวมถึงพระสงฆ์ แม่ชี ที่อาศัยในวัด อยู่ฝั่งตรงข้ามที่จะต้องออกมาบิณฑบาตในหมู่บ้านอย่างยากลำบาก หากต้องใช้เส้นทางอื่นต้องอ้อมไปไกลกว่า 12 กม.ผ่าน 2 หมู่ จะมาถึง ชุมชน บ.โคกผงาด ซึ่งสร้างความเดือดร้อนและลำบากในการดำเนินชีวิตให้แก่ชาวบ้านดังกล่าวเป็นอย่างมากในช่วงนี้ จึงฝากสื่อช่วยนำเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยมาแก้ไขให้ชาวบ้านด้วย เพราะที่ผ่านมา ทางอบต.โคกเพชรและชาวบ้านชุมชนช่วยกันซ่อมแซมและปรับปรุงให้ใช้ได้ตลอดมาตั้งแต่ปี64แต่ในครั้งนี้ทำนบขาดเป็นบริเวณกว้างเกินที่ชาวบ้านจะแซ่มแซมได้จึงฝาก๔งหน่วยงานเข้ามาช่วยแก้ให้ชาวบ้านด้วย


ด้านนายทวี บุญขุนทด อายุ51ปี ชาวบ้าน บ้านโคกผงาด ต.โคกเพชร อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ เผยว่า เมื่อต้นสัปดาห์ ที่ผ่านมาได้มีฝนตกหนัก ทำให้มีมวลน้ำในทำนบดินกั้นคลองบงเป็นจำนวนมาก และทำให้ทำนบดินรับน้ำไม่ไหว จึงเกิดน้ำทะลักขาดเป็นบริเวณกว้างนับ10เมตรลึกกว่า5เมตร ทำให้ชาวบ้านพระสงฆ์แม่ชีได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถสัญจรไปมาผ่านเส้นทางนี้ได้ จึงฝากไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบช่วยเข้ามาแก้ไขให้ชาวบ้านด่วนด้วย เพราะเป็นถนนที่ชาวบ้านต้องขนสินค้าทางการเกษตรออกสู่ตลาดและเชื่อมไปยังหมู่บ้านอื่นๆอีก2หมู่บ้านชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนที่ได้รับความเดือดร้อนในครั้งนี้
ด้านนาย ธงชัย ทิพย์จรูญ นายก อบต.โคกเพชร กล่าว ทำนบดินกักเก็บน้ำแห่งนี้ทาง อบต.ได้เข้ามาซ่อมแซมประจำทุกปี แต่ปีฝนตกหนักในพื้นที่อย่างรุนแรงจึงทำให้มีมวลน้ำไหลบ่าเข้ามาสมทบกันที่คลองบงซึ่งเป็นแหล่งกักเก็บน้ำของหมู่บ้านโคกผงาดเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ทำนบดินดังกล่าวไม่สามารถรับน้ำได้จึงขาดพังเสียหายลงมาเบื้องต้นโดยทางอบต.จะได้นำแผงกั้นมาปิดเส้นทางป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายแก่ชาวบ้านพร้อมทำหนังสือไปยังหน่วยงานให้รับทราบต่อไป
ด้านนายประพันธุ์ สู่หนองบัว นายอำเภอบำเหน็จณรงค์ กล่าวว่าหลังทราบข่าวก็ได้ประสานผู้นำชุมชน ลงพื้นที่ตรวจสอบเป็นการด่วน เพราะช่วงนี้พืชผลการเกษตรของชาวบ้านราคาดี ชาวบ้านจำเป็นที่จะต้องนำพืชผลออกขายสู่ตลาดโดยใช้เส้นทางนี้เป็นหลัก จึงได้ประสาน ไปยังกรมชลประทานที่รับผิดชอบโดยตรง ซึ่งทางหน่วยรับทราบและจะนำเครื่องจักรลงมาทำการซ่อมแซมให้ชาวบ้านได้ใช้ถนนสัญจรไปมาในเร็ว ๆ นี้ไปก่อน เพื่อรอ งบประมาณการก่อสร้างเต็มรูปแบบอีกครั้งในปีงบประมาณ 68 นี้ โดยจะแก้ปัญหาในเบื้องต้นให้กับชาวบ้านได้ใช้ไปก่อนในระยะนี้

วิรัตน์ ดวงแก้ว ผู้สื่อข่าว จ.ชัยภูมิ