“ลุงป้อม” ยกทัพปราศรัยใหญ่ที่ขอนแก่น เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น ทั้ง 11 เขต พร้อมชู 3 นโยบาย พปชร.สร้างรายได้เกษตรกรไทย หลุดพ้นจากความยากจน ก้าวข้ามความขัดแย้ง ลดคาน้ำมัน ค่าไฟฟ้าที่อยู่อาศัย
30 เม.ย.66 ที่ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ขอนแก่น (KICE) จ.ขอนแก่น พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ( พปชร.) พร้อมด้วยแกนนำพรรค อาทิ นายสนธิรัตน์ สนธิจิระวงศ์, นายวิรัช รัตนเศรษฐ์, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ที่จ.ขอนแก่น เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น ทั้ง 11 เขต ของพรรคพลังประชารัฐ พร้อมชูนโยบายในการช่วยพี่น้องประชาชน โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยกองเชียร์ในจังหวัดและพื้นที่ข้างเคียง เข้าร่วมรับฟังนโยบายการปราศรัยกว่า 20,000 คน ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นการปราศรัยครั้งใหญ่ในพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งประชาชนต่างส่งเสียงให้กำลังใจ พร้อมประสานเสียงร้องเชียร์ เบอร์ 37 อย่างต่อเนื่อง
“ผู้สมัคร ส.ส.จ.ขอนแก่น ทั้ง 11 เขต ได้แก่ ดร.อัษฎางค์ แสวงการ เขต 1 เบอร์ 2, ดร. พัฒนา นุศรีอัน เขต 2 เบอร์ 2, นายปัญญา ศรีปัญญา เขต 3 เบอร์ 2, นายณรงค์เลิศ สุรพล เขต 4 เบอร์ 1, นายสมใจ ชาญจระเข้ เขต 5 เบอร์ 10, นายสำราญ ศรีภา เขต 6 เบอร์ 7, นายสมศักดิ์ คุณเงิน เขต 7 เบอร์ 4, นพ.กันณพงศ์ อัครไชยพงศ์ เขต 8 เบอร์ 10, นายพิพัฒน์พงศ์ พรมนอก เขต 9 เบอร์ 2, นายบัลลังก์ อรรณนพพร เขต 10 เบอร์ 2, ร.อ.สมรักษ์ คำสิงห์ เขต 11 เบอร์ 3”
พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ พลังประชารัฐได้นำเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากมาย ทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เพิ่มเป็น 700 บาทต่อเดือน ส่วนในเรื่องของกองทุนหมู่บ้านที่ว่าจะยุบ ขอยื่นยันว่าจะไม่ยุบแต่จะเพิ่มเงินอุดหนุนกองทุนอีก 200,000 บาท และในส่วนลดราคาน้ำมัน ราคาแก๊ส และค่าไฟฟ้าลงในทันทีที่เข้ามาเป็นรัฐบาล โดยจะลดราคาน้ำมันเบนซินลง 18 บาทต่อลิตร น้ำมันดีเซลลด 6.30 บาทต่อลิตร รวมทั้งยังมีมาตรการลดราคาแก๊สให้เหลือ 250 บาทต่อถัง ที่สำคัญ คือ ลดค่าไฟฟ้าครัวเรือนให้เหลือ 2.50 บาทต่อหน่วย และลดค่าไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมเหลือ 2.70 บาทต่อหน่วย เพื่อมอบความสุขให้ประชาชนด้วยความจริงใจ พลังประชารัฐจะทำทุกอย่างเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น ก้าวข้ามความขัดแย้ง
นอกจากนี้ พรรคพลังประชารัฐ ยังมีนโยบาย เติมเงินช่วยลดต้นทุนทำนาสูงสุด 30,000 บาท หวังยกระดับชีวิตชาวนา พร้อมชู 3 นโยบาย พปชร.สร้างรายได้เกษตรกรไทย หลุดพ้นความยากจน พรรคพลังประชารัฐจึงออกนโยบายเพื่อเกษตรกร โดยเริ่มจากนโยบายเติมเงินทุนช่วยเหลือเกษตรกร ครัวเรือนละ 30,000 บาท นโยบายที่ 2 นโยบายปุ๋ยคนละครึ่ง ซึ่งภาครัฐจะช่วยเหลือค่าปุ๋ย 50% และนโยบายที่ 3 นโยบายเพิ่มเงินช่วยเหลือต้นทุนค่าเก็บเกี่ยวข้าวให้ชาวนา อัตราไร่ละ 2,000 บาท จำนวนไม่เกิน 15 ไร่ เป็นเงิน 30,000 บาทต่อราย
อีกทั้งพรรคพลังประชารัฐ มีนโยบายดูแลทุกช่วงวัย ‘แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ’ แจกเงินคนท้องเดือนละ 10,000 บาท เป็นเวลา 5 เดือนจนกว่าจะคลอด และเงินช่วยดูแลลูกอีกเดือนละ 3,000 บาท จนถึง 6 ขวบ เพื่อให้สตรีมีขวัญกำลังใจในการช่วยกันเพิ่มประชากร และอีกหนึ่งนโยบายที่สำคัญก็คือ มีเราไม่มีแล้ง มีน้ำไม่มีจน ที่เราได้บริหารจัดการมากว่าสามปี ได้ทำให้น้ำบนดิน น้ำใต้ดิน น้ำบ่อ น้ำตื้นต่างๆ เช่นเดียวที่ดินกิน ถ้ามีเราก็มีที่ดินทำกิน ไม่มีจน เราจะทำให้ประชาชนทั่วทั้งประเทศมีที่อยู่ที่อาศัย ที่ประกอบสัมมาวิชาชีพ
ทั้งนี้ ในการปราศรัยทางหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐได้ชูนโยบายเด่นของพรรค คือการเพิ่มเงินสวัสดิการบัตรประชารัฐเป็น 700 บาท การเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ 3 4 5 และ 6 7 8 คือ การเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุต่อเดือนแบบขั้นบันได ตั้งแต่อายุ 60 ปี เพิ่มเป็น 3,000 บาท อายุ 70 ปีขึ้นไป เพิ่มเป็น 4,000 บาท และอายุ 80 ปีขึ้นไป เพิ่มเป็น 5,000 บาท อีกทั้งนโยบายการแก้ปัญหาที่ทำกิน แก้ปัญหาน้ำ ภัยแล้ง ฝุ่นควัน และยาเสพติด เป็นต้น ทั้งนี้ ถือเป็นปัญหาเร่งด่วนที่พร้อมจะทำทันที หากได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐพร้อมจะทำเพื่อคนขอนแก่น คนอีสานรวมทั้งคนทั้งประเทศให้อยู่ดีกินดี พร้อมแก้ปัญหาให้ทุกเรื่อง วอนคนขอนแก่นและคนอีสานเลือกผู้สมัครของพรรคทั้ง 11 เขต เพราะเป็นคนดีที่ตนคัดสรรทุกคนมาด้วยตนเอง มีความสามารถและพร้อมเสียสละเพื่อคนอีสาน.