อุดรธานี (ชมคลิป) ออกไล่ล่าคนร้ายขี้ยาลักรถมอเตอร์ไซด์ชาวบ้านหลายคัน

โจรขี้ยาก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์เจ้าของรถมาเจอเข้าควบคุมแต่วิ่งหนี ก่อนจะใช้มีดจี้ชิงรถจักรยานยนต์หญิงสาวขี่หลบหนีไป


วันที่ 18 มี.ค. 66 เวลา 08.30 น. ศูนย์วิทยุ 191 ภูธรจังหวัดอุดรธานี รับแจ้ง คนร้ายใช้มีดจี้ชิงรถจีกรยานยนต์ เหตุเกิดที่บริเวณ ถ.ประจักษ์ศิลปาคม เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงประสาน ร.ต.อ.วิฆเนศ ซื่อตรง รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี สายตรวจ191 เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบ น.ส. ศิริรัตน์ มิ่งมูล 37 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น เจ้าของรถจยย.ยามาฮ่า ฟรีโน่ สีดำ จำทะเบียนไม่ได้ เนื่องจากแผ่นป้ายทะเบียนหัก จึงเอาไว้ใต้เบาะ ยืนรอให้การกับตำรวจ ด้วยอาการตกใจ น.ส. ศิริรัตน์ เล่าว่าขณะที่ตนยืนรอซื้อของอยู่ มีชาย รูปร่างผอม ไม่สวมเสื้อ วิ่งมาแล้วเข้าไปเอามีดทำครัว หลังร้าน ขายอาหาร จากนั้นวิ่งไปขี่รถของตนซึ่งจอดไว้ริมถนนแต่ไม่ได้ถอดกุญแจ คนร้ายจึงได้ถือมีดพร้อมร้องตะโกนบอกอย่าเข้ามา แล้วคนร้ายก็ขี่รถของตนไป มีพลเมืองดีพร้อมผู้เสียหายที่เคยถูกคนร้ายทำร้ายขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามคนร้ายไปถึง วงเวียนหอนาฬิกา แต่ก็ไม่ทันคนร้าย จึงได้กลับมารอตำรวจบริเวณที่เกิดเหตุ


นายถาวร สุกรี อายุ 51 ปี ชาวจังหวัดสกลนคร เล่าว่าเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา น้องชายขับรถจักยานยนต์รับจ้างที่บริเวณ บขส.แห่งที่1 ได้ถูกคนร้ายขโมยรถไป ซึ่งได้แจ้งความเอาไว้แล้ว มาวันนี้ขณะที่ตน มาทำธุระ บริเวณถนนรังสรร หลังบขส.พบคนร้าย เดินอยู่หน้าตึกแล้ว จึงได้ไปเรียกน้องชายมาช่วยกันจับตัว แต่ด้วยคนร้ายตัวรูปร่างใหญ่ จึงได้ดิ้นและถอดเสื้อออก จนหลุดการควบคุมของพวกตน แล้ววิ่งหลบหนี มาทางซอยเอไอเอ ออกมาทางถนนประจักษ์ศิลปาคม แล้วได้ไปขโมยรถที่จอดไว้หน้าร้านขายอาหาร ขับหลบหนี น้องชายและตนจึงขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามแต่ก็ไม่ทัน


ร.ต.อ.วิฆเนศ ซื่อตรง รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งจึงได้ออกตรวจสอบและวิทยุสกัดตามเส้นทาง ที่คนร้ายหลบหนี เบื้องต้นทราบว่าคนร้ายรายนี้เคยมีประวัติขโมยรถจักรยานยนต์ และผู้เสียหายได้แจ้งความเอาไว้ วันนี้มาพบจึงเข้าควบคุมตัว แต่คนร้ายดิ้นหลุดแล้ววิ่งหลบหนี จนมาพบรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายอีกคนเสียกุญแจเอาไว้ และคนร้ายได้เข้าไปหยิบมีดทำครัว 2 เล่ม ในร้าน มาข่มขู่ผู้เสียหาย ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป จึงได้ประสานตำรวจชุดสืบสวน ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนีเพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป