หนองบัวลำภู - พิธีพระราชทานเพลิงศพทหารที่เสียชีวิต จากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่าง ไทย-กัมพูชา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการบำเพ็ญกุศลออกเมรุพระราชทานเพลิงศพ สิบโท ศราวุฒิ นามสวัสดิ์ นายทหารที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่าง ไทย-กัมพูชา

วันที่ 31 ก.ค. 68 ที่เมรุวัดศิลาพัฒนาราม บ้านป่าแดงงาม อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ ในการบำเพ็ญกุศลออกเมรุ พระราชทานเพลิงศพ สิบโทศราวุฒิ นามสวัสดิ์ ข้าราชการทหารที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะระหว่างปฏิบัติหน้าที่พิทักษ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 ณ บริเวณฐานปฏิบัติการ ตาสิงห์ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสเกษ

โดย พล.อ. ชิษณุพงศ์ รอดศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ พระเทพวัชรวิสุทธิ์ ดร.เจ้าคณะจังหวัดหนองบัวลำภู ประธานฝ่ายสงฆ์ ในขณะเดียวกันมี นายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู พลตรีณัฐ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ผศ.สุพางค์พรรณ พาดกลาง ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 2 ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 3 หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ข้าราชการ ตำรวจ ทหาร ครอบครัว ญาติ ผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงานจาก กองร้อยอาวุธเบาที่ 1 กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 8 เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียงและสมเกียรติ
สำหรับพิธีบำเพ็ญกุศลพระราชทานในการออกเมรุ พระราชทานเพลิงศพ เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น.ประกอบด้วย พิธีสวดพระพุทธมนต์ ถวายพระธรรมเทศนา รับพระราชทานฉัน พระสงฆ์สมณศักดิ์ 10 รูป สวดมาติกา พิธีทอดผ้าไตรบังสุกุล 10 ไตร จากนั้น เวลา 15.00 น. เป็นพิธีพระราชทานเพลิงศพ อัญเชิญกล่องเพลิงและผ้าไตรพระราชทาน อ่านหมายรับสั่ง อ่านสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ประธานขึ้นทอดผ้าไตรบังสุกุล จำนวน 5 ไตร หน้าจิตกาธาน พระสงฆ์สมณศักดิ์ จำนวน 5 รูป พิจารณาผ้าไตรบังสุกุล และประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ เป็นเสร็จพิธี

สิบโท ศราวุฒิ นามสวัสดิ์ มีพี่น้องทั้งหมด 2 คน ซึ่งสิบโทศราวุฒิ์ เป็นคนที่ 2 และยังไม่มีครอบครัว นิสัยเป็นคนเรียบร้อย ร่าเริง เป็นที่รักของผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงาน จบจากโรงเรียนนายสิบทหารบก เมื่อปี 2566 เริ่มรับราชการครั้งแรกที่ กองร้อยอาวุธเบาที่ 1 กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 8 ตำแหน่งหัวหน้าชุดยิง หมวดปืนเล็ก ขณะปฏิบัติหน้าที่พิทักษ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ได้เคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมรบกับผู้บังคับบัญชาและเพื่อนทหารหาญอย่างองอาจเด็ดเดี่ยว เพื่อปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติไม่ให้ใครมารุกราน เป็นวีรกรรมอันกล้าหาญของทหารผู้พลีชีพเพื่อชาติ