อุดรธานี – รวบยกแก๊งขนยาบ้า 2 ล้านเม็ดเศษ นำส่งในพื้นที่อุดร พบทัพหน้าซิ่งจยย. ดูลาดเลาเจอด่านมีพิรุธ ใช้วิธีบอกเส้นทางในมือถือ

รวบยกแก๊งขนยาบ้า 2 ล้านเม็ดเศษ นำส่งในพื้นที่อุดรได้หลังพบทัพหน้าซิ่งจยย.มาดูลาดเลาเจอด่านแล้วมีพิรุธบอกเส้นทางในมือถือ

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 28 เมษายน พล.ต.ต.สุวรรณ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จ.อุดรธานี นายพิสิษฐ์ชัย อภัยปิยกุล รอง ผวจ.อุดรธานี พ.ต.อ อนุศักดิ์ ศักดาวัชรานนท์ รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.ชัยรัตน์ ประสารพันธ์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ต.นรุตม์ ศิริกัณหา สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าวจับแก๊งยาเสพติด

ประกอบด้วย นายณรงค์  หรือหาญ อายุ 22 ปี นายศุภชัย  หรือบอย อายุ 38 ปี และนายสรพงษ์ หรือ พงษ์ อายุ 46 ปี ทั้งหมดเป็นชาว ต.นายูง อ.นายูง จ.อุดรธานีจับได้พร้อม ของกลาง ยาบ้า 2,012,000 เม็ด รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า อาร์ 15 สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีขาว ทะเบียน ถฐ 7834 กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง โดยแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย โดยจับกุมได้ที่ด่านตรวจถนนอุดรธานี -สกลนคร บ้านหนองแก ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี เวลา 03 .00 น. วันที่ 26 เมษายน 2568

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก พล.ต.ท.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ ผบช.ภ.4 ได้มีนโยบายให้ตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อเป็นการสกัดกั้น การลักลอบลำเลี้ยงยาเสพติด โดยเน้นตรวจรถยนต์ทุกชนิด ซึ่ง พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ ฯ และ พ.ต.ท.ชัยรัตน์ ได้สนองนโยบาย ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.นรุตม์ ศิริกัณหา สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ร.ต.อ.ถิรโยธิน ทรัพย์สินธ์ รอง นำกำลังสายตรวจ 191 ตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันอาชญากรรมและปราบปรามยาเสพติด บริเวณถนนอุดรธานี -สกลนคร บริเวณบ้านหนองแก ต.หนองนาคำ ขาเข้าตัวเมืองอุดรธานี เป็นเขตติดต่อกับ อ.หนองหาน

จนกระทั่งเวลา 03.00 น.วันที่ 26 เม.ย.พบหาญ ได้ขี่รถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า อาร์ 15 สีเทาดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาในด่านตรวจ จึงเรียกให้หยุดตรวจ ซึ่งนายหาญได้แสดงท่าทีมีพิรุธ และจากการสอบถามนายหาญ ให้การรับสารภาพว่า ได้ขี่รถจยย.เพื่อตรวจดูเส้นทาง ให้กับรถยนต์กระบะขนยาเสพติดจาก จ.บึงกาฬ มาส่งที่อุดรธานี ขณะนี้รถจอดอยู่ในปั๊ม ปตท. อ.หนองหาน โดยมีการส่งข้อความแจ้งเส้นทางเป็นระยะทาง Messenger จึงได้ขอตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ พบว่ามีการแจ้งเส้นทางจริง จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

ต่อมา พ.ต.ท.ชัยรัตน์  ได้นำกำลังไปทำการตรวจสอบที่ปั๊มน้ำมันดังกล่าว และพบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีขาว ทะเบียน ถฐ 7834 กรุงเทพมหานคร จอดในปั๊มจริง จึงเข้าจตรวจค้นตามยุทธวิธี พบนายบอย นั่งอยู่เบาะคนขับ นายพงษ์ นั่งอยู่เบาะข้างคนขับ มีกระสอบปุ๋ย 5 กระสอบวางอยู่เบาะแค๊ป ตรวจค้นพบเป็นกระสอบบรรจุห่อยาบ้า 2,012,000 เม็ด จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางมาทำการสอบสวนที่ สภ.เมืองอุดรธานี จากการสอบสวนทั้งสามคนให้การรับสาภาพว่า ได้รับจ้างขนยาบ้าจากนายเอ็ม นายทุนชาวลาว ในราคา 2.1 แสนบาท โดยโอนเงินให้ก่อน 2 หมื่นบาท เมื่อส่งยาบ้าเสร็จจะได้ค่าจ้างที่เหลือ แต่โชคร้ายมาโดนจับก่อน

นายหาญ นายบอย นายพงษ์ ต่างร่วมกันให้การรับสารภาพว่า พวกตนพึ่งรับจ้างขนยาบ้าเป็นครั้งแรก โดยได้การว่าจ้างจากนายเอ็ม นายทุนชาวลาว ซึ่งรู้จักกับพี่ชายนายหาญในเรือนจำ จึงได้ติดต่อกันทาง Messenger จากนั้นได้ขับรถยนต์ไปรับยาบ้าในป่ายางพื้นที่ อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ 5 กระสอบ มาส่งที่ อ.เมืองอุดรธานี นายบอยเป็นคนขับรถเพราะเป็นเจ้าของรถปิกอัพ มีนายพงษ์นั่งมาด้วย ส่วนนายหาญขี่รถ จยย.นำหน้าเพื่อดูเส้นทางว่ามีด่านตรวจหรือไม่

ทั้ง 3 ร่วมให้การต่อไปว่า ถ้าส่งยาบ้าสำเร็จ นายหาญจะได้ค่าจ้าง 2.2 หมื่นบาท ต้องการหาเงินให้เมียไปทำงานต่างประเทศ นายบอยได้ 1.5 แสนบาทเพราะเป็นเจ้าของรถยนต์ ส่วนนายพงษ์จะได้ 2 หมื่นบาท ซึ่งนายบอย สารภาพว่าที่มารับจ้างขนยาบ้าเพราะว่ามีหนี้นอกระบบอยู่ประมาณ 1 แสนกว่าบาท จึงมารับจ้างขนยาเสพติดเพื่อนำเงินไปใช้หนี้ ส่วนนายพงษ์บ้านมีฐานะยากจน และมีหนี้เล็กน้อย ส่วนนายหาญแค่อยากมีเงินมาใช้จ่ายเท่านั้น

พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล เปิดเผยว่า ตามสูตรผู้ค้ายาบ้า จะไม่ได้ขนยาบ้าเอง แต่เป็นผู้สั่งการ ถ้าพลาดโดนจับ 2 ล้าน ก็จะเอาออร์เดอร์ใหม่ มาซ่อมออเดอร์เก่าที่โดนจับ และส่งออร์เดอร์ใหม่ด้วย ซึ่งผู้บังคับบัญชาก็ทราบ จึงสั่งการให้สกัดกั้นยาเสพติดทั้ง 252 สถานี ซึ่งส่วนมากผู้สั่งการจะอยู่ในเรือนจำ และติดต่อผู้รับจ้างจนผ่านญาติในเรือนจำ ซึ่งรายนี้ได้ค่าจ้าง 2 แสนบาท จ่ายล่วงหน้า 2 หมื่นบาท เมื่องานเสร็จจะได้ส่วนที่เหลือ เมื่อถูกจับก็มักจะรับสารภาพว่าพึ่งทำเป็นครั้งแรก คาดว่าจะมีเครือข่ายมากกว่านี้ เพราะจากคำให้การทราบว่า ไปรับช่วงต่อที่ อ.บ้านดุง พอมาถึงเมืองอุดรธานี ก็จะมีคนมารับช่วงต่ออีก จึงต้องตั้งด่านตรวจ ให้เข้มข้นเพื่อสกัดยาเสพติดไม่ให้เข้าสู่เมืองชั้นใน

ยาเสพติด