ขอนแก่น อุบัติเหตุไม่ใช่เวรกรรมทุกชีวิตต้องได้รับการดูแลรักษา

อุบัติเหตุรถทัวร์โดยสารติดถังแก๊ส NGV จนระเบิดไฟลุกท่วม ผู้เสียชีวิต 5 ศพ และผู้ได้รับบาดเจ็บ 12 ราย ภาคประชาชนร้องอุบัติเหตุไม่ใช่เวรกรรม ผู้โดยสารต้องได้รับการชดเชยเยียวยา 

จากกรณีอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสาร สายอุดรธานี-กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นรถทัวร์ 2 ชั้น ยางระเบิดและเกิดไฟลุกไหม้ บนถนนมิตรภาพ บ้านหนองขาม ต.โนนสมบูรณ์ อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น เสียหายหมดทั้งคัน ปรากฏว่า พบร่างผู้เสียชีวิตมากถึง 5 ราย ส่วนใหญ่โดยสารชั้น 2 ของรถทัวร์ โดย 2 ใน 5 เป็นแม่ลูกกันที่หนีออกมาไม่ทัน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 เม.ย.64 ที่ห้องประชุมเสียงแคน ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น นายสุเทพ มณีโชติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2564 จังหวัดขอนแก่น โดยเป็นการประชุมระบบทางไกล Video Conference ร่วมกับคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี และร่วมรับฟังสรุปผลการสอบสวนเชิงลึกกรณี กับทีมงานผู้เชี่ยวชาญกรมการขนส่งทางบกด้วย

ข้อมูลจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ ทั้งตำรวจ ขนส่ง มีข้อสรุปสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ว่า อุบัติเหตุรถบัสโดยสารประจำทาง บริษัท ขนส่ง จำกัด (บริษัท 407 พัฒนา จำกัด ผู้เข้าร่วมประกอบการขนส่ง) คันหมายเลขทะเบียน 10-7387 อุดรธานี หมวด 2 เส้นทางกรุงเทพฯ-อุดรธานี ซึ่งรับผู้โดยสารออกจากต้นทาง จ.บึงกาฬ จำนวน 33 คน มุ่งหน้าไปยังจุดหมายปลายทางที่กรุงเทพมหานคร โดยมีการรับผู้โดยสารขึ้นตามรายทางด้วย เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ บริเวณ ทล. 2 (ถนนมิตรภาพ) กม.319–320 เมื่อเวลาประมาณ 23.25 น. วันที่ 12 เม.ย.64 ยางหลังด้านขวาเกิดระเบิดและเกิดเพลิงลุกไหม้ ไฟเริ่มไหม้จากด้านหลังรถ ชั้นล่างลุกลามขึ้นชั้น 2 และไหม้รถโดยสารคันดังกล่าวทั้งคัน ทำให้เกิดมีความชุลมุน ผู้โดยสารหนีเอาตัวรอดออกนอกรถ จนทำให้มีผู้โดยสารเสียชีวิต 5 ศพ และได้รับบาดเจ็บจำนวน 12 ราย ที่บริเวณบ้านหนองขาม ต.โนนสมบูรณ์ อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น

พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหานายพัสดี คำคอน อายุ 48 ปี พนักงานขับรถทัวร์ คือ “ประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ” และได้มีการควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีแล้ว ส่วนประเด็นการเกิดระเบิดขึ้น เพราะเนื่องจากรถทัวร์โดยสารคันดังกล่าว มีการติดตั้งแก๊ส NGV (Natural Gas Vehicles) มาในรถ เกิดระเบิดขึ้นจากด้านหลังรถ ไฟได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ส่วนสาเหตุโดยละเอียดนั้นขณะนี้รอเจ้าหน้าที่วิศวกรทางกรมขนส่งทางบก และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 4 เพิ่มเติมด้วย โดยรถทัวร์คันดังกล่าวได้มีการตรวจสภาพรถเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา รวมทั้งยางรถได้มีการเปลี่ยนใหม่เช่นกัน

ส่วนรายชื่อผู้เสียชีวิต ได้แก่

1.น.ส.สุกัลยา เกษหอม อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 57 หมู่ที่ 14 ต.เมืองเพีย อ.กุดจับ จ.อุดรธานี

2.นายสหรัฐ อ้อมแก้ว อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 154/2 หมู่ที่ 4 ต.ม่วงไข่ อ.พังโคน จ.สกลนคร

3.น.ส.ปรางค์ทอง กาล้อม อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 91 หมู่ที่ 5 ต.คำบง อ.บ้านผิอ จ.อุดรธานี

4.ด.ญ.ปวรรัตน์ กาล้อม อายุ 6 ปี บ้านเลขที่ 64 หมู่ที่ 6 ต.ชีวาน อ.พิมาย จ.นครราชสีมา

5.น.ส.หนึ่งฤดี ปิ่นแคน อายุ 23 ปี บ้านเลขที่ 68 หมู่ที่ 9 ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ จ.บึงกาฬ

ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ได้แก่

1.นายพัสดี คำคอน อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 54 หมู่ทรา 19 ต.หนองเม็ก อ.หนองหาน จ.อุดรธานี (คนขับรถ)

2.นายอนุวัฒน์ ชุ่มชื่นสระน้ำ อายุ 28 ปี ต.ปากเพรียว อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี

3.นายอภิสิทธิ์ วิเวกวรรณ์ อายุ 59 ปี ต.สุวรรณคูหา อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู

4.นางยุพดี ศรีสร้อยพร้าว อายุ 35 ปี ต.โนนสมบูรณ์ อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น

5.นายสุรพล อนุกูล อายุ 31 ปี ต.โนนสมบูรณ์ อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น

6.ด.ญ.ณนิชา พาพิมา อายุ 10 ปี ต.โนนสมบูรณ์ อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น

7.นางเพื่อง เวียงชัย อายุ 34 ปี ต.โนนสมบูรณ์ อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น

8.นายปัจพล ภาคสังข์ อายุ 19 ปีต.ม่วงงาม อ.เสาไห้ จ.สระบุรี

9.นางมัชฌิมา พรมโคตร อายุ 47 ปี ต.หนองเม็ก อ.หนองหาน จ.อุดรธานี

10.น.ส.รัตติยาภรณ์ บุตรแก้ว อายุ 29 ปี ต.นาพู่ อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี

11.นายผดุงโรจน์ ฮุงหวน อายุ 20 ปี ต.นาโน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

12.นายรังสรรค์ ทาศรีแสง อายุ 36 ปี ต.โนนสมบูรณ์ อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น

ส่วน นายปฏิวัติ เฉลิมชาติ เครือข่ายผู้บริโภคภาคอีสาน กล่าวว่า อยากเห็นรถโดยสารสาธารณะที่ปลอดภัย เมื่อเกิดอุบัติเหตุทางถนนในแต่ละครั้ง นำมาซึ่งความสูญเสียหลายๆ ด้าน เช่น ผู้นำหลักของครอบครัว คนที่เรารัก คุณภาพชีวิตของผู้โดยสารที่ยังมีความทรงจำกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนวิตกกังวลที่จะไม่ใช้บริการรถโดยสารอีก คงไม่มีใครอยากให้เกิด ปัจจัยของการเกิดอุบัติเหตุเกิดจาก คน รถ ถนนและสิ่งแวดล้อมทัศนวิสัย ที่ผ่านหลายหน่วยงานมีความพยายามร่วมมือกันทั้งระดับต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ โดยเป้าหมาย “อุบัติเหตุต้องเป็นศูนย์ ” ใน 365 วัน

“จากลงพื้นที่เพื่อดูสภาพรถทัวร์โดยสารคันเกิดเหตุนี้ และสอบถามจากผู้โดยสาร(ขึ้นรถจากอำเภอหนองหาน จ.อุดรธานี) ที่นั่งมากับรถซึ่งนั่งอยู่ชั้นล่างพอได้ยินเสียงระเบิดจากด้านหลังสักพักได้กลิ่นก๊าซ และมีเปลวเพลิงลุกลามมา จึงเอาตัวเองออกมาจากตัวรถได้โดยออกประตูฝั่งประตูคนขับเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด ไฟไหม้อาจจะเกิดจากยางรถล้อหลังขวาระเบิดทำให้เศษยางไปโดนวาล์วถังแก๊ส NGV แล้วเกิดประกายไฟก๊าซจึงลุกลามไปทั่วรถ ซึ่งผู้เสียชีวิตอยู่บนชั้นสองในช่วงเวลาที่ชุลมุนผู้โดยสารทุกคนพยายามลงจากรถให้ได้ ซึ่งในรถมีวัสดุที่ไวไฟ เช่น เบาะนั่ง ผ้าห่ม ฟองน้ำ ผ้าม่าน สีรถ รถมอเตอร์ไซค์ 1 คันในรถซึ่งมีน้ำมันเชื้อเพลิงที่ไวไฟ และพบว่า รถคันนี้เป็นรถที่ได้รับอนุญาตวิ่งบนเส้นทางอุดรธานี-กรุงเทพฯ แต่ทำไมวิ่งออกนอกเส้นทางไปรับผู้โดยสารต้นทางที่อำเภอบุ่งคล้า จ.บึงกาฬ ปลายทางกรุงเทพฯ” นายปฏิวัติ เฉลิมชาติ กล่าวและว่า

ข้อเสนอที่ต้องการให้รถโดยสารสาธารณะได้มีความปลอดภัย 1.ขนส่งทางบกต้องเรียกรถที่มีการติดก๊าซ NGV(Natural Gas Vehicles) ที่มีการติดตั้งเช่นเดียวกันกับรถที่เกิดเหตุมาตรวจสภาพ ปรับปรุงแก้ไขมิให้เกิดซ้ำ 2.การลงโทษผู้ประกอบการ คนขับ ทั้งเรื่องเส้นทาง การนำรถมอเตอร์ไซค์ขึ้นรถ 3.ผู้ประกอบการต้องมีวีดีโอหรือการแนะนำจากคนขับ หรือบริกรในรถ อธิบายให้ผู้โดยสารฟังวิธีการเอาตัวรอดจากกรณีฉุกเฉิน เมื่ออยู่บนรถเพื่อลดความสูญเสียจากกรณีฉุกเฉิน เช่น แนะนำค้อนทุบกระจก ถังดับเพลิง ประตูฉุกเฉิน อยู่ตรงไหน ใช้อย่างไร ความเร็วที่ใช้ ถึงจุดหมายปลายทางช่วงเวลาไหน เป็นต้น 4.กรมการขนส่งทางบก ควรมีมาตรการให้รถโดยสารใช้วัสดุอุปกรณ์ในรถที่มีความทนไฟ เพื่อมิให้เกิดเป็นเชื้อเพลิงที่ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ความสูงของรถสองชั้น 5.กลไกการชดเชยเยียวยาความเสียหายให้กับผู้โดยสารที่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต ไม่เป็นภาระของครอบครัวที่ต้องมาดูแล 6.หากรถโดยสารสาธารณะพัฒนายกระดับคุณภาพการให้บริการ ผู้บริโภคต้องหันมาใช้บริการ และ 7.ผู้โดยสารหากพบรถโดยสารสาธารณะ ที่วิ่งให้บริการรู้สึกไม่ปลอดภัยสามารถโทรสายด่วน ศูนย์คุ้มครองรถโดยสารสาธารณะ กรมการขนส่งทางบก 1584.