จากเหตุการณ์หมีควายน้ำหนักกว่า 200 กิโลกรัมที่ทำร้ายกำนันตำบลบริบูรณ์และชาวบ้านได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 คน ทำให้เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ระดมกำลังกว่า 400 นายออกติดตามตัวหมีควายที่ยังไม่ทราบที่มาตัวนี้เป็นวา 3 วันที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 11 กันยายน 63 นายบัณฑิต โม้เวียง อายุ 38 ปี เจ้าของฟาร์มโคเวียงศิริฟาร์ม อยู่เลขที่ 116 หมู่ 9 บ้านดงลาน ต.ดงลาน อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น เผยเหตุการณ์ระทึกในช่วงเช้าที่ได้ยินเสียงคำรามของหมีว่าในช่วงเช้าประมาณ 6.00 น. ตนได้ออกจากฟาร์มวัวเพื่อไปตรวจน้ำในนาข้าวที่อยู่ทางด้านทิศเหนือของฟาร์ม ในพื้นที่ 110 ไร่ ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 กิโลเมตร หลังจากที่เดินดูน้ำในแปลงข้าว ได้สักพักได้ยินเสียงคำรามคล้ายเสียงหมี ดังขึ้นห่างไปทางด้านทิศตะวันตกประมาณ 100 เมตร ได้ยินอย่างชัดเจน จึงได้หันไปมอง แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงอีกเลย ด้วยความกลัว เนื่องจากที่ผ่านมาทราบว่าในพื้นที่มีการประกาศให้ชาวบ้านทราบว่าระวังอันตรายจากหมีควายที่ไม่ทราบที่มาตามที่มีการเสนอข่าวแล้วนั้น
ด้วยความไม่ประมาทตนได้พกอาวุธปืนติดตัวประจำในช่วงที่อยู่ที่ฟาร์ม แต่ก็พยายามจะฟังเสียงร้องอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจแต่ก็ไม่ได้ยินเสียง ซึ่งคาดว่าเป็นหมีย่างแน่นอน ด้วยเหตุการณ์นี้ตนอยู่ในที่แจ้ง หมีอยู่ในที่ลับตาก ตนจึงเลี่ยงหลบตามพุ่มไม้แล้วขึ้นรถไถที่ขับลงมาดูน้ำนาขึ้นไปยังที่พักภายในฟาร์ม
เมื่อถึงที่พักเพื่อความมั่นใจ ได้เปิดเช็คเสียงของหมีควายทางเน็ตในโทรศัพท์มือถืออีกครั้ง ทำให้แน่ใจชัดว่าเสียที่ได้ยินนั้นเป็นเสียงของหมีควายอย่างแน่นอน จึงได้นำเรื่องที่ได้ยินเสียงหมีควายไปแจ้งให้กับทางผู้ใหญ่บ้านทราบ พร้อมกับได้ไปเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้กับชุดปฏิบัติการไล่ล่าหมีควายที่อยู่ อบต.บริบูรณ์ ทราบ เพื่อท่ะได้ติดตามตัวของหมีตัวดังกล่าวให้ออกจากพื้นที่โดยเร็ว
ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 ขอนแก่น ยังคงพยายามทุกวิถีทางในการจับหมีควาย ล่าสุดได้นำกรงดักสัตว์มาติดตั้งเพิ่มอีก 6 กรง ในจุดที่คาดว่าหมีควายจะย้อนกลับเข้ามาหากินในช่วงกลางคืน
ตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้เจ้าหน้าที่จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 ขอนแก่น กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้นำกรงดักสัตว์จำนวน 6 กรง นำไปวางไว้ตามบริเวณไร่มันสำปะหลังและป่าชุมชน บ้านเทพประทาน ตำบลบริบูรณ์ อำเภอสีชมพู จังหวัดขอนแก่น รวมทั้งในพื้นที่ที่คาดว่าหมีควายจะออกมาหากินในช่วงกลางคืนเพิ่มอีกจำนวน 6 จุด จากเดิมที่ติดตั้งไว้ก่อนหน้านี้ 1 จุด รวมเป็น 7 จุด โดยใช้ผลขนุนสุก น้ำผึ้งและน้ำหวาน ซึ่งเป็นอาหารที่หมีโปรดปราน มาเป็นเหยื่อล่อให้หมีควายเข้ามาติดกรงดัก ซึ่งเมื่อหมีเข้าไปในกรงแล้วก็จะไม่สามารถออกมาได้ โดยหวังว่าอาจจะจับหมีควายตัวดังกล่าวได้ และเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ก็ได้ออกไปตรวจสอบกรงดักสัตว์ที่ติดตั้งไว้ทั้ง 7 จุด แต่ก็ต้องผิดหวังเนื่องจากทุกกรงว่างเปล่า ซึ่งในวันนี้เจ้าหน้าที่จะยังคงระดมกำลังกระจายออกติดตามหมีควายต่ออีกเป็นวันที่ 4 โดยแผนการในวันนี้จะให้เจ้าหน้าที่จากสมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ (ประเทศไทย) นำอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรนที่ติดตั้งกล้องตรวจจับความร้อน ขึ้นบินสำรวจพื้นที่ที่คาดว่าหมีควายอาจจะหลบซ่อนอยู่ ซึ่งหากหมียังคงวนเวียนอยู่ในพื้นที่ กล้องตรวจจับความร้อนก็จะสามารถตรวจจับความเคลื่อนไหวได้ และหากพบว่าเป็นหมีควายตัวดังกล่าว ก็จะแจ้งพิกัดที่แน่นอนไปยังเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน ที่กระจายกันอยู่ทั่วพื้นที่ พร้อมอุปกรณ์ในการจับหมีรวมทั้งลูกดอกยาสลบ เข้าทำการจับหมีตามแผนที่วางไว้ทันที.