ผู้บริหารโรงเรียนเอกชนชื่อดังในจังหวัดกาฬสินธุ์ และครูสาวที่ถูกพาดพิงในเพจอยากดัง ออกมาเปิดเผยกรณีมีผู้โพสต์ภาพครูสาวในชุดเสื้อสีฟ้า ขณะทำการใช้เครื่องสแกนศีรษะนักเรียนชาย พร้อมข้อความ ตี๊ดดด ไม่พบสมองค่ะนักเรียน ระบุไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นโพสต์และภาพที่ถูกคนอื่นแชร์กันเข้ามาในโลกโซเชียล โดยโยงถึงโรงเรียนและตนเอง ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย ล่าสุดแจ้งความดำเนินคดีกับคนโพสต์ด่า ข้อหาหมิ่นประมาทและพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
จากกรณีโลกโซเชียลมีการแชร์ภาพและข้อความ หลังเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ Travel เผยแพร่รูปภาพครูสาวรายหนึ่งกำลังใช้เครื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย สแกนบริเวณตรงหน้ากากเด็กนักเรียนชาย พร้อมแคปชั่นข้อความว่า “ตี้ดดด ไม่พบสมองค่ะนักเรียน” ซึ่งทางเพจระบุว่า “ให้ภาพเล่าเรื่อง นี่คือแคปชั่นของครู” ทั้งนี้ภายหลังที่โพสต์เผยแพร่ออกไป ทำให้มีคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความเหมาะสมกันจำนวนมาก ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่ามีครูสาวคนหนึ่งอยู่ที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ กลับถูกพาดพิง และถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนโพสต์ จนทัวร์มาลงที่เฟซบุ๊ก
ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2563 ผู้สื่อข่าวได้เข้าสอบถามข้อเท็จจริงจากนายธนสิทธิ์ ไชยศรีหา ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนธนาศิริวัฒนศึกษา ต.ห้วยเม็ก อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ นางเสถียร ไชยศรีหา ผู้จัดการโรงเรียนธนาศิริวัฒนศึกษา และนางสาวกมลวรรณ อินอุ่นโชติ ครูสอนภาษาอังกฤษ อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นครูสาวที่ถูกเข้าใจผิดสแกนศีรษะนักเรียนและโพสต์ข้อความดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนโพสต์ข้อความและรูปภาพในเฟซบุ๊กก็ไม่ใช่ตน
โดยนางสาวกมลวรรณ อินอุ่นโชติ กล่าวว่า จากการที่มีคนใช้เฟซบุ๊กและแชร์ภาพผู้หญิงคนหนึ่งสวมเสื้อสีฟ้า กำลังสแกนวัดอุณหภูมิเด็กนักเรียนและมีข้อความ “ตี้ดดด ไม่พบสมองค่ะนักเรียน” นั้น ยืนยันว่าไม่ใช่ตน และสถานที่ที่ปรากฏในภาพนั้นไม่ใช่บริเวณโรงเรียนธนาศิริวัฒนศึกษา อีกทั้งเด็กเรียนก็ไม่ใช่ ทั้งนี้หลังทางเพจดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ทำให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นตน มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก และด่าตนด้วยถ้อยคำหยาบคาย ทั้งๆที่ตนไม่ทำ เพียงแต่ก่อนหน้านี้ได้ถ่ายภาพกลุ่มเพื่อนครูในโรงเรียนขณะทำความสะอาดห้องเรียนเตรียมเปิดเทอม แล้วโพสต์หยอกล้อเล่นกันในกลุ่มครูเท่านั้น ซึ่งในภาพก็มีแต่ครู ไม่มีนักเรียน ซึ่งอาจจะมีข้อความลักษณะคล้ายกัน จึงทำให้คนอื่นเข้าใจผิด และตนก็ไม่เข้าใจจุดประสงค์ของผู้โพสต์ว่าต้องการอะไร แต่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นหลังจากเพจดังกล่าวแชร์ออกไปคือมีผลกระทบ มีคนเข้ามาด่าเยอะมาก
นางสาวกมลวรรณกล่าวอีกว่า ตนทราบว่าเพจดังกล่าวทำการแชร์ในโลกโซเชียลเมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งครูโรงเรียนธนาศิริวัฒนศึกษา ที่ดูแลด้านเวปไซต์แจ้งให้ทราบ จึงเข้าไปดูกันและพบมีคนโยงให้ตนเข้าไปเกี่ยวข้อง โดยแคปโปรไฟล์ตนที่ก่อนหน้านี้ได้เข้าไปชี้แจงในเฟซบุ๊ก ซึ่งทำให้ตนและครูในโรงเรียนรู้สึกงุนงงสงสัยมาก และรับไม่ได้กับถ้อยคำหยาบคาย ที่คนใช้เฟซบุ๊กหลายคนกล่าวหาและโจมตีตน อย่างไรก็ตาม ครูสาวเสื้อสีฟ้าที่ปรากฏในเพจดังกล่าว ได้โพสต์เข้ามาขอโทษตนที่ทำให้เกิดกระแสดังกล่าว ก่อนที่จะลบเพจนั้นไป ขณะที่ตนก็ได้ปิดเฟซบุ๊กส่วนตัวไว้ เพราะไม่อยากรับรู้ถ้อยคำหยาบคายที่คนใช้เฟซบุ๊กเข้ามาด่าตน ซึ่งตนได้แจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยเม็ก ข้อหาหมิ่นประมาท และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพื่อติดตามผู้ใช้เฟซบุ๊กที่กล่าวหาและด่าตน จนทำให้เกิดความอับอายแล้ว ทั้งๆที่ไม่เป็นความจริงเลย
ด้านนายธนสิทธิ์ ไชยศรีหา ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนธนาศิริวัฒนศึกษา กล่าวว่า ทั้งก่อนเปิดภาคเรียนและในวันเปิดภาคเรียน คณะครู นักเรียน ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ทั้งในส่วนของการใส่หน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง ตั้งจุดคัดกรอง จุดล้างมือ ตั้งแต่ประตูเข้าโรงเรียนและก่อนเข้าห้องเรียน อย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้น ยืนยันทั้งภาพครูสาวในชุดเสื้อสีฟ้า นักเรียน สถานที่ ไม่ใช่เกิดขึ้นในโรงเรียนของเรา ซึ่งไม่ทราบว่าเกิดขึ้นที่ใด เพราะทั้งตัวบุคคล เครื่องแต่งกายนักเรียน สิ่งแวดล้อม ไม่ใช่ในโรงเรียนธนาศิริวัฒนศึกษาแน่นอน
นายธนสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนที่นางสาวกมลวรรณ ไปแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาท และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์นั้น เป็นสิทธิ์ที่พึงทำได้ เพราะได้รับความเสื่อมเสียทั้งตัวครูและสถานศึกษาด้วย อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสังคมคงจะเข้าใจและรับทราบข้อเท็จจริง ในกรณีนี้ทางโรงเรียนจึงจะยังไม่ไปแจ้งความกล่าวหาบุคคลใด และยังไม่ได้รายงานศึกษาธิการจังหวัดทราบเรื่อง แต่สิ่งที่แน่นอนคือ ทั้งครู และบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนเรา ต่างเคารพในระเบียบวินัย มีจรรยาบรรณ การที่จะโพสต์จะแชร์อะไรออกไป ต้องผ่านการคัดกรองอย่างรอบคอบ และไม่มีทางที่จะแชร์ออกไปตามที่ปรากฏในโลกโซเชียล