บริษัทประกันภัย มอบเงินเยียวยา 1 ล้าน เหตุจรวด BM-21 ตกใส่ร้านสะดวกซื้อ ด้านเจ้าของปั๊มวอนรัฐเร่งคลี่คลายปัญหาชายแดน หวั่นเหตุซ้ำรอยซ้ำซาก กระทบปากท้อง
วันที่ 24 กันยายน 2568 เวลา 15.00 น. ที่บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.บ้านผือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุจรวด BM-21 ของฝ่ายกัมพูชา ตกใส่ภายในร้านสะดวกซื้อจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย เหตุเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 หรือผ่านมาแล้วเกือบ 2 เดือน แต่สถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง เนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่ทหารของทั้งสองประเทศยังคงตรึงพื้นที่เข้มงวดเช่นเดิม
นางสาวกมนรัตน์ พลเศรษฐเลิศ เจ้าของปั๊มน้ำมันดังกล่าว เปิดเผยว่า ในวันนี้ตนได้เดินทางมาเพื่อรอรับมอบเงินเยียวยาช่วยเหลือจากบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เป็นจำนวนเงิน 1 ล้านบาท โดยถือเป็นการช่วยเหลือกรณีพิเศษ เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้อยู่ในขอบเขตความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัย เนื่องจากเป็นภัยคุกคามจากการรุกรานของต่างประเทศ ซึ่งไม่ครอบคลุมในเงื่อนไขการประกันภัยทั่วไป
ในส่วนของความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ชายแดนปัจจุบัน นางสาวกมนรัตน์ระบุว่า ยังคงมีความกังวลอย่างมาก โดยเฉพาะเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ที่มีเสียงปืนดังขึ้นบริเวณแนวชายแดน ทำให้ต้องรีบขนย้ายสินค้าและพนักงานออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย ซึ่งเป็นการแจ้งเตือนจากเจ้าหน้าที่ทหารที่ให้ประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง
เธอกล่าวว่า ในสถานการณ์ที่ยังไม่มีความแน่นอน หากจะมีการปะทะกันอีก ตนอยากเห็นการดำเนินการที่ชัดเจนและเด็ดขาด เพราะการตรึงกำลังที่ยืดเยื้อเช่นนี้ ทำให้ประชาชนต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวง ต้องย้ายของ ย้ายพนักงานอยู่ตลอดเวลา ความรู้สึกยังคงเหมือนกับวันที่เกิดเหตุจรวดตก จะทำมาหากินก็ลำบาก พนักงานก็ไม่มีความมั่นคงในชีวิต
นางสาวกมนรัตน์ยังฝากถึงรัฐบาลให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาความมั่นคงบริเวณชายแดนอย่างเป็นรูปธรรม เพราะชาวบ้านและภาคธุรกิจในพื้นที่ชายแดนได้รับผลกระทบอย่างหนัก ไม่สามารถประกอบอาชีพได้อย่างต่อเนื่อง บางครั้งเริ่มทำการค้าได้ไม่นานก็ต้องหยุดชะงักเพราะเหตุปะทะ ต้องอพยพหนีอีก บรรยากาศในพื้นที่เงียบเหงา การค้าขายซบเซา แม้แต่การทำไร่ ทำนา หรือกรีดยางก็ไม่สามารถทำได้
ในส่วนของการเยียวยาภาคประชาชน นางสาวกมนรัตน์กล่าวว่า จนถึงขณะนี้เงินช่วยเหลือ 5,000 บาทที่รัฐบาลประกาศไว้ก็ยังไม่ได้รับ พร้อมทั้งวิงวอนให้เร่งจ่ายเงินเยียวยาให้ประชาชนอย่างทั่วถึง เพราะยังไม่รู้ว่าในอนาคตจะต้องอพยพอีกเมื่อใด สำหรับภาคเอกชนอย่างปั๊มน้ำมันของตน ยังไม่ได้รับการเยียวยาใด ๆ จากภาครัฐเลย นอกจากการสอบถามและให้ส่งเอกสารเพิ่มเติม ซึ่งจนถึงปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ว่าจะได้รับเงินช่วยเหลือจากหน่วยงานใด
เธอยังระบุว่า ภาระค่าใช้จ่ายยังต้องแบกรับต่อเนื่อง โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าที่ปั๊มน้ำมันในฐานะเอกชนไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐเหมือนประชาชนทั่วไป หากต้องปิดบริการทั้งปั๊มน้ำมันและร้านสะดวกซื้อ ก็ยังต้องจ่ายเงินเดือนให้พนักงานตามเดิม ผู้เช่าพื้นที่ในปั๊มที่เปิดร้านค้าก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน
นางสาวกมนรัตน์ปิดท้ายว่า “ทุกอย่างตอนนี้คือภาระทั้งสิ้น ขอให้รัฐบาลเร่งเยียวยา และคลี่คลายสถานการณ์ชายแดนให้กลับคืนสู่ความสงบสุขโดยเร็วที่สุด”.
ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน
