อุดรธานี – รวบลูกเขยสิงห์พนันสร้างหลักฐานเท็จหลังขโมยทองหนัก 16.5 บาทแม่ยายขายเล่นพนันออนไลน์-ซื้อยาเสพ

รวบลูกเขยสิงห์พนันสร้างหลักฐานเท็จหลังขโมยทองหนัก 16.5 บาทแม่ยายขายเล่นพนันออนไลน์-ซื้อยาเสพ

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 23 สิงหาคม 2568 ร.ต.อ.อุดมโชค สิงหกุลศิริ รอง สว.สส.สภ.ย่อยโนนสูง พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน เข้าจับกุมนายพรสน เทพาหล หรือต่อ อายุ 31 ปี บ้านเลขที่ 99 ม.7 ต.ผักตบ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ในข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหะสถาน , เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท จำนวน 1 เส้น กุญแจห้องนอนผู้เสียหาย 1 ดอก และหลักฐานจากปัสสาวะที่ผลเป็นบวกหลังจากทำการตรวจ

การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อเช้าวันที่ 20 สิงหาคม 2568 ร.ต.อ.เจนวัธน์ วิทยรติโชติดระกูล รอง สว.สอบสวน สภ.ย่อยโนนสูง อ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายงัดบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านจัดสรรหรูมีชื่อแห่งหนึ่งใน ต.หนองขอนกว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี เข้าไปลักทรัพย์ เป็นทองรูปพรรณจำนวน 16.5 บาท รวมมูลค่าประมาณ 825,000 บาท หลังจากได้รับแจ้งแล้วพร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจุมชน ต.หนองขอนกว้าง และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูน 2 ชั้นพบน.ส.เอ นามสมมติ (อาทิตยา โอชารส) อายุ 23 ปีและนายพรสน เทพาหล หรือต่อ อายุ 31 ปี ลูกสาวและลูกเขยนางนิ (ญาณิศา พัคเนลล์) อายุ 51 ปี เจ้าของบ้าน ที่ทำงานอยู่ที่ประเทศแคนนาดา ทั้ง 2 คนได้นำตำรวจตรวจสอบในบ้าน พบว่าที่ห้องน้ำภายในห้องนอนของนางนิฯ บนชั้น 2 ของบ้าน มีร่องรอยคนร้ายกรีดมุ้งลวดช่องลมบน ทีวีจอแบน 1 เครื่อง และรอยรองเท้าเปื้อนดินโคลน ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจึงถ่ายภาพและเก็บลายนิ้วมือแฝงไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งขณะตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุ ลูกเขยก็แสดงอาการพิรุธหลายอย่าง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแนะนำลูกสาวเจ้าของบ้าน รับมอบอำนาจจากแม่ เดินทางไปแจ้งความลงบันทึกไว้ที่ สภ.เมืองอุดรฯ

ต่อมาร.ต.อ.อุดมโชค สิงหกุลศิริ รอง สว.สส.สภ.ย่อยโนนสูง พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน และตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี เดินทางไปเค้นสอบปากคำนายพรสน ต่อหน้า น.ส.เอ วันแรกนายต่อ ลูกเขยเจ้าของบ้าน ในตอนแรกให้การปฏิเสธ จนกระทั่งถูกเค้นสอบหนักอยู่หลายชั่วโมง นายต่อจึงยอมรับสารภาพว่า ได้สร้างพยานหลักฐานเท็จ ทำทีว่ามีโจรงัดบ้านขโมนทองรูปพรรณ และทองคำแท่ง ของแม่ยาย ที่เก็บไว้ใต้ที่นอนน้ำหนักรวม 16.5 บาท นำไปขายที่ร้านทองในพื้นที่ อ.หนองหาน และอ.เมืองอุดรธานีแบบทยอยขาย 5 ร้าน

เมื่อได้เงินมาก็มาเติมเงินในโทรศัพท์มือถือ เพื่อเล่นการพนันออนไลน์ (ปั่นสล็อต) จนเสียเงินไปเกือบหมด เริ่มก่อเหตุมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม- สิงหาคม 2568 หลังรับสารภาพแล้วตำรวจได้ควบคุมตัวไปชี้จุดเก็บกุญแจห้องภายในบ้าน และจุดที่ขโมยทองไป พร้อมกับเอาเงินส่วนที่เหลือประมาณ 1 แสนบาท ไปซื้อสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท คืนให้แม่ของแม่ยาย ที่แม่ยายซื้อไว้ให้แม่ตัวเองที่อยู่ อ.หนองหาน แต่ยังไม่ได้มอบให้กับมือ ส่วนการเสพยาบ้า นายต่ออ้างว่า เพื่อไม่ให้ง่วงนอน สามารถปั่นสล็อตได้ทั้งวันทั้งคืน ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวนต่อที่ สภ.เมืองอุดรฯ เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย

จากการสอบสวน นายต่อ ให้การรับสารภาพทั้งน้ำตาว่า ตนอยู่กินฉันสามีภรรยากับ น.ส.เอ มา 7-8 ปี ทำงานเป็นไรเดอร์รับส่งอาหาร จนแม่ยายไว้เนื้อเชื่อใจรักเหมือนลูกชาย จึงให้เข้ามาอยู่ดูแลบ้านกับลูกสาว ที่ตนทำไปเนื่องจากติดการพนันออนไลน์งอมแงม หรือผีพนันเข้าสิงจนหลงผิด อยากขอโทษแม่ยายและภรรยา ที่ตนหลงผิด และขอให้แม่ยายและภรรยาให้อภัยตนด้วย เมื่อพ้นโทษออกมาจะเลิกลักขโมย และเลิกเสพยาบ้า กลับตัวกลับใจเป็นคนดีของสังคม ถึงแม้ว่าภรรยาและแม่ยายจะไม่ให้อภัยกลับคืนมาอยู่กินด้วยกันก็ตาม

“ฝากถึงคนที่ติดการพนัน และติดเสพยาบ้า เลิกได้ก็ควรให้เลิกเสีย หากไม่เลิกก็จะเป็นเหมือนตน ที่ตอนนี้อนาคตมืดมน ต้องมาติดคุกเพราะผีพนันเข้าสิง และขอชดใช้กรรมที่ก่อไว้กับแม่ยายและภรรยาของตนเอง”

ต่อมาตำรวจได้โทรติดต่อไปยัง น.ส.เอ ภรรยาของนายต่อ เนื่องจากนายต่ออยากพูดคุยและขอโทษกับภรรยา และอยากเห็นหน้าภรรยาครั้งสุดท้ายก่อนจะติดคุก ตำรวจจึงต่อสายให้คุยกัน ซึ่ง น.ส.เอ ก็ให้อภัยสามี แต่จะกลับมาอยู่ด้วยกันนั้นไม่ได้อีกแล้ว พ้นโทษออกมาก็ต่างคนต่างอยู่ และจะไปเยี่ยมครั้งสุดท้ายที่ศาล และขอให้เรื่องราวที่ผ่านมาเกือบ 8 ปี จบกันลงไปเพียงเท่านี้

ในประเทศ

Related posts