แม่ทัพภาคที่ 2 ถวาย พระประธานทรงเครื่องสมัยเชียงแสน ปางสดุ้งมาร องค์ที่ 19 จาก 20 องค์ในจังหวัดภาคอีสาน เชื่อมีพุทธคุณปัดเป่าคุณไสยมนต์ดำสิ่งชั่วร้าย นำความผาสุขสู่ประเทศชาติบ้านเมือง พร้อมเผยชีวิตหลังเกษียณไม่ขอยุ่งเกี่ยวการเมือง และพร้อมเป็นอีกหนึ่งที่จะปกป้องผืนแผ่นดินไทยทุกตารางนิ้วไว้ให้พี่น้องได้ทำการเกษตร

เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายในวัดพัชรกิตติยาภาราม อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มาลงสนามบินชั่วคราวภายในวัดพัชรกิตติยาภาราม พร้อมด้วย พล.ต.อรรถชัย รักษาศิลป์ ผบ.มทบ.21 เพื่อมาถวาย พระประธานทรงเครื่องสมัยเชียงแสน ปางสดุ้งมาร ขนาดหน้าตัก 30 นิ้ว ร่วมกับ ชมรมพัฒนาสัมพันธ์ระดับบริหาร กองทัพภาคที่ 2 โดยมี พระเทพวัชรวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดหนองบัวลำภู ประธานสงฆ์วัดพัชรกิตติยาภาราม ประธานฝ่ายสงฆ์ จากนั้นพิธีกรได้อาราธนาศีล อาราธนาพระปริตร พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์สมโภช แม่ทัพภาคที่ 2 นำกล่าวถวายพระประธาน ประธานฝ่ายสงฆ์กล่าวสัมโมทียกถา และอนุโมทนา

ในส่วนของจังหวัดหนองบัวลำภู มีนายสุรศักดิ์ อักษรกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู นางศรัณยา สุวรรณพรหม นายก อบจ.หนองบัวลำภู นายกำธร วิเชฏฐพงศ์ ปลัดจังหวัดหนองบัวลำภู นายดอกดิน ต้อมทอง พัฒนาการจังหวัดหนองบัวลำภู นายเตชิต ทรงบุญศาสตร์ นายอำเภอเมืองหนองบัวลำภู รอง ผกก. สภ.เมืองหนองบัวลำภู พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารท้องถิ่น พุทธศาสนิกชน ร่วมให้การต้อนรับและร่วมการถวายพระพุทธรูปดังกล่าว
หลังจากที่ได้ถวายพระประธานทรงเครื่องสมัยเชียงแสน ปางสดุ้งมาร เสร็จแล้ว แม่ทัพภาคที่ 2 ได้กล่าวกับ แขกผู้มีเกียรติและพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมถวายพระพุทธรูปในวันนี้ว่า วันนี้ถือว่าได้มาอนุโมทนาบุญร่วมกัน เชื่อว่า การถวายพระพุทธรูปเป็นพุทธคุณที่จะต่อสู้กับสิ่งไม่ดี หรือแม้แต่มนต์ดำก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ขอให้มาจากนอกโลกก็ทำอะไรไม่ได้หรอกจะทำให้เราปลอดภัยจากศัตรูแน่นอน ซึ่ง การถวายพระเป็นความตั้งใจของตนเองมานานแล้ว ก่อนที่จะมีข่าวเกี่ยวกับเรื่องมนต์ดำ ซึ่งพระพุทธรูปที่นำมาถวายที่วัดพัชรกิตติยาภารามแห่งนี้ เป็นองค์ที่ 19 และองค์ที่ 20 จะนำไปถวายที่จังหวัดยโสธร ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 จึงขอเชิญชวนพี่น้องได้ร่วมทำบุญ อนุโมทนาบุญด้วยกัน

ส่วนเรื่องการปกป้องผืนแผ่นดินไทยให้ปลอดภัยจากอริราชศัตรูนั้น พล.ท.บุญสิน พาดกลาง กล่าวว่า จะปกป้องผืนแผ่นดินไทยให้ปลอดภัยจากศัตรูแน่นอน ซึ่งเขตแดนของเราก็ยังอยู่ให้พี่น้องได้ทำการเกษตร เหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ขอยืนยันกับพี่น้องประชาชน จะเกษียณในอีก 3 เดือนข้างหน้า ก็ขอเป็นหนึ่งเสียงที่จะอยู่ปกป้องร่วมกับพี่น้องประชาชนในการที่จะดูแลประเทศชาติบ้านเมืองในส่วนที่จะทำได้ ตรงไหนมีคนพาทำดีเราก็ไป ทำไม่ดีเราไม่ไป ในส่วนที่จะทำได้ จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ขออยู่รับเงินบำนาญเพียงอย่างเดียวก็พอแล้ว ชีวิตคนเรา สุดท้ายเราก็ต้องตายทุกคน ไม่กี่วันก็ตาย จะเอาอะไรมากมาย ขอให้ประเทศชาติเราคงอยู่ ดูแลแผ่นดินนี้ให้ลูกหลานเราได้อยู่ได้อาศัย ให้ดีคือ หน้าที่ของเรา

จากนั้นยังได้มีการแจกรูปถ่ายที่วาดโดยศิลปิน ณัฎฐ์ จันพลแสน เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2568 ซึ่งภายในรูปมีข้อความว่า”แผ่นดินกู อยู่ตรงนี้มานานแล้ว “ เป็นฐานด้านล่างรูป และมีคำว่าเพื่อชาติ กระจายเต็มรูปพร้อมด้วยลายเซ็นจริงสีน้ำเงิน ของ แม่ทัพภาพที่ 2 ให้กับผู้ที่มาร่วมงานทุกคน ซี่งมีผู้มาร่วมงานต่างเข้าแถวขอรับด้วยตนเอง และขอถ่ายรูปตลอด โดย FC ต่าง ๆ ตั้งแต่ลงจากรถก่อนที่จะเข้าสู่ศาลา ถวายพระพุทธรูป จะมีชาวบ้าน แฟนคลับมาคอยต้อนรับขอถ่ายรูป ผูกผ้าขาวม้าให้เป็นเวลากว่า 30 นาที จนแน่นเกือบถึงหน้าอก สร้างรอยยิ้มและความยินดีให้กับแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นอย่างมาก ซึ่งชาวบ้านต่างบอกว่า อยากขอถ่ายรูปด้วย เห็นข่าว เห็นการทำงานที่เสียสละในการปกป้องอธิปไตยของประเทศชาติบ้านเมืองแล้ว รู้สึกประทับใจ ซึ่งแต่ก่อนก็ไม่รู้จัก พอมาเห็นข่าว เห็นความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานเพื่อประเทศชาตแล้วรู้สึกปลาบปลื้ม จึงอยากมาเห็นและขอถ่ายรูปด้วย

สำหรับการถวายพระพุทธรูปนั้น แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินสาย ถวายพระประธานตามวัดต่างๆ ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ที่รับผิดชอบทั้งสิ้น 20 จังหวัดอีสาน อย่างต่อเนื่อง ซึ่งการลงพื้นที่ในแต่ละครั้งจะนำพระประธาน ไปถวายยังวัดในจังหวัดนั้น ๆ จังหวัดละ 1 องค์ โดย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง บอกว่า ตนเองเป็นคนที่ชอบทำบุญ การลงพื้นที่ในแต่ละครั้งนอกจาก ไปตรวจเยี่ยมหน่วยทหารแล้ว ตนยังได้มีโอกาสพบปะกับพี่น้องประชาชน ซึ่งคนทางภาคอีสาน ชอบเข้าวัดทำบุญ ตนจึงเห็นว่าการลงพื้นที่ในแต่ละครั้ง ควรที่จะทำบุญที่วัด โดยการถวายพระองค์ใหญ่หรือพระประธานให้แก่วัด เพื่อเป็นการสร้างบุญกุศล ครั้งใหญ่ เป็นการทำบุญ ที่เชื่อว่าจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคล และความเจริญรุ่งเรือง ให้พี่น้องประชาชน จะได้รับอานิสงส์ผลบุญมากมาย แก่ชีวิตของทุกๆท่าน อีกทั้งยังช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดี สิ่งชั่วร้ายให้พ้นออกไปจากประเทศเรา และนำพาความสุข ความเจริญกลับมาสู่ประเทศเรา เป็นการแก้เคล็ด หรือแก้ไขสิ่งที่ไม่ดีให้ออกไป

สุภัชรกานต์ แก้วสิงห์ ภาพและข่าว นัณฐิยา ทองศิริอุบล รายงานข่าวจากจังหวัดหนองบัวลำภู
ในประเทศ