ผอ.รพ.ศรีนครินทร์ เผย รพ.รัฐขาดทุน เพราะต้นทุนการรักษา กับรายรับไม่สัมพันธ์กัน ชี้ รัฐบาลต้องเพิ่มงบจาก4% เป็น10% และให้ประชาชน ที่มีเงินแต่ใช้สิทธิบัตรทองร่วมจ่าย

15 พ.ค. 68 จากกรณีเพจสมาพันธ์แพทย์ รพ.ศูนย์/รพ.ทั่วไป โพสต์ข้อความ “ติดลบ 1.2 พันล้าน รพ.ขอนแก่นวิกฤติ ขาดยา-งบ เพราะคำสั่ง ให้มันพังที่เดียว วอนปลัดสธ.เร่งช่วยเหลือ อย่าซ้ำเติมหักOTบุคคลากร ” โดยโพสต์ดังกล่าวมีประชาชน มาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก บางส่วนเรียกร้องให้มีการจัดสรรงบประมาณให้กับโรงพยาบาลให้มากขึ้น บางส่วนโจมตีนโยบายประชานิยมทำให้โรงพยาบาลขาดทุน

ขณะที่ ศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น แสดงความคิดเห็นกับเรื่องนี้ว่า การที่โรงพยาบาลรัฐหลายแห่งประสบปัญหาสภาพคล่อง ไม่ได้เกิดจากความบกพร่องของผู้บริหาร แต่เกิดจากงบประมาณที่จัดสรรไม่เพียงพอของรัฐบาลซึ่งการจ่ายค่าตอบแทนให้กับโรงพยาบาลของรัฐ จ่ายตามค่าน้ำหนักสัมพัทธ์หรือ RW ยกตัวอย่างเช่น คนที่เป็นโรคเดียวกัน เช่นโรคไส้ติ่งอักเสบ มีความรุนแรงของโรค เท่ากับ 1RW หากเป็นผู้ป่วยสิทธิ์บัตรทอง สปสช.จะจ่ายให้หน่วยงานของรัฐ 1rw เท่ากับ 8,350 ถ้าเป็นผู้ป่วยสิทธิ์ประกันสังคม จ่าย 12,000 บาท สิทธิข้าราชการ กรมบัญชีกลางจะจ่าย 13,500 บาท ทำให้เห็นว่า ค่าใช้จ่ายของโรงพยาบาลที่เกิดจากผู้ป่วยโรคเดียวกันจะได้เงินไม่เท่ากัน

“ถ้าหากโรงพยาบาลไหนดูแลผู้ป่วยสิทธิบัตรทองเยอะ ก็มีโอกาสที่จะขาดทุนสูงกว่า ขณะที่ต้นทุนการรักษาคนไข้ 1 rwเท่าไหร่นั้น จากการศึกษาพบว่า 1 rw ของโรงพยาบาลชุมชนอยู่ที่13,000 บาท แต่ถ้าเป็นโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย เช่นโรงพยาบาลศรีนครินทร์ 1RW เท่ากับ 22,000 บาท จะเห็นว่าต้นทุนค่ารักษา กับรายรับไม่สัมพันธ์กัน ทำให้หลายโรงพยาบาลของรัฐขาดทุน ส่วนกรณีผู้ป่วยนอก ถ้าเป็นสิทธิ์บัตรทองสปสช.จะจ่ายให้ตามครั้งที่มารักษาไม่ตายตัว เช่น รพ. ก.จ่าย500 ต่อครั้ง รพ.ข.800บาทต่อครั้ง แต่ถ้าค่ารักษาเกิน สปสช.ไม่จ่าย โดยไม่คำนึงถึงต้นทุนการรักษา แต่ถ้าเป็นสิทธิ์ข้าราชการกรมบัญชีกลาง จะจ่ายให้ ตามจำนวนจริงของค่ารักษาพยาบาล เช่นถ้ารักษา 10,000 บาท ก็จ่ายให้โรงพยาบาล 10,000 บาท”ศ.นพ.สมศักดิ์ กล่าว

ศ.นพ.สมศักดิ์ เปิดเผยอีกว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเราพบว่าคนไข้ในโรงพยาบาลมีเยอะขึ้น เพิ่มขึ้นมาประมาณ 10-15% เพื่อลดการแออัดโรงพยาบาลก็ต้องจ้างบุคลากรเพิ่ม ทำให้ต้นทุนของโรงพยาบาลสูงขึ้นอีก ขณะที่สปสช. ประกันสังคม และกรมบัญชีกลาง ยังจ่ายค่ารักษาพยาบาล ตามหลักเกณฑ์เดิม ที่ผ่านมาเราจะเห็นแพทย์พยาบาลลาออก เนื่องจากภาระงานที่หนักขึ้น ตอนนี้ขาดแคลนทั้งทรัพยากรบุคคล ขาดแคลนทั้งงบประมาณ สำหรับการแก้ไขปัญหานี้รัฐต้องเพิ่มงบประมาณขึ้นมา ปัจจุบันรัฐบาลให้งบประมาณด้านสุขภาพ เพียง 4% จากงบประมาณทั้งหมดของประเทศ ถ้าจะแก้ปัญหาก็จะต้องเพิ่มงบขึ้น 2 เท่าครึ่ง คือ 10% จึงจะสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น

“อีกแนวทางการแก้ปัญหา คือ ประชาชนที่มีความพร้อมต้องร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาล ยกตัวอย่างเช่น อาจจะเป็นเจ้าของร้านทอง ห้างร้าน ธุรกิจ ซึ่งมีกำลังทรัพย์ที่จะจ่าย แต่ใช้สิทธิ์บัตรทอง เพราะได้เป็นข้าราชการ หรือพนักงานบริษัท ก็ควรจะร่วมจ่ายเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม แต่สปสช.มีเงื่อนไขว่าห้ามคนใช้สิทธิบัตรทองจ่าย ถ้าปลดล็อกตรงนี้ให้คนมีกำลังทรัพย์ร่วมจ่ายถือว่าเป็นเรื่องดี ส่วนคนที่ใช้สิทธบัตรทองอยู่แล้ว ถ้าไม่มีก็ไม่ควรจะจ่าย เพราะการเข้าถึงสิทธิ์พยาบาล เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนทุกคน คนยากจนก็ต้องได้รับการยกเว้น”ผอ.รพ.ศรีนครินทร์ ทิ้งท้าย
ในประเทศ