ศรีสะเกษ – สุดเศร้าลุงเผาถ่านกลางดึกพลาดท่าตกหลุมถูกไฟคลอกดับอนาถ

เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2567 ร.ต.อ.มงคล พิลัย รอง สว. (สอบสวน) สภ.อุทุมพรพิสัย ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนเสียชีวิตอยู่ในเตาเผาถ่าน ที่บ้านโพนทอง ต.แขม อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุอยู่กลางทุ่งนา พบเตาเผาถ่านแบบหลุมสี่เหลี่ยม ขนาดเตากว้างประมาณ 1.8 เมตร ยาวประมาณ 2.5 เมตร ลึกประมาณ 1.5 เมตร ใช้แผ่นเหล็กปิดด้านบน ตรงหลุมเผาถ่านมีควันไฟพวยพุ่ง ชาวบ้านจึงพากันใช้น้ำดับไฟอย่างโกลาหล หลังไฟดับตรวจสอบภายในเตาถ่าน พบร่าง นายสัมพันธ์ ศรีวรกุล อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58 หมู่ 1 ต.แขม อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ถูกไฟคลอกเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ สภาพถูกไฟเผาไหม้เกรียมอยู่ในเตา

จากการสอบถาม นางสุมาลี ศรีวรกุล อายุ 52 ปี ภรรยาของผู้ตาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ปกติช่วง เวลา 03:00 น. สามีของตนจะตื่นขึ้นไปจ่ายตลาดเพื่อซื้อของมาไว้เตรียมทำกับข้าวขาย และตนกับสามีจะนอนอยู่คนละห้อง พอช่วง เวลา 04:00 น. (วันที่ 11 มี.ค. 67) ตนตื่นขึ้นมาก็ไม่เห็นสามีของตนแล้ว เห็นแต่รถสามีจอดอยู่ จึงเอะใจและร้องเรียกหาสามีแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ ตนจึงเดินออกไปข้างนอกบ้าน แล้วมองไปที่เตาถ่านเห็นไฟลุกไหม้แรงผิดปกติ ตนไม่กล้าเดินเข้าไปดู จึงไปเรียกพี่เขยให้มาช่วยดูว่าตรงเตาถ่านทำไมไฟลุกไหม้แรงผิดปกติ พอพี่เขยเดินเข้าไปดูก็พบว่า นายสัมพันธ์ (ผู้ตาย) ถูกไฟคลอกอยู่ในเตาเผาถ่านจนร่างไหม้เกรียม ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ตนเคยเห็นแต่ในข่าวไม่นึกเลยว่าจะมาเกิดขึ้นกับสามีของตน

ด้าน นายสำรอง สรศรี อายุ 60 ปี เพื่อนบ้านที่มีเตาเผาถ่านใกล้กัน เล่าว่า ตนออกมาดูถ่านที่เผาอยู่ในเตาของตน เมื่อช่วงประมาณตี 1 กว่าๆ แล้วมองมาฝั่งเตาเผาถ่านของผู้เสียชีวิต ก็เห็นไฟลุกไหม้แรงมาก แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร คิดแค่ว่าเตาเผาถ่านของผู้เสียชีวิต คงจะทะลุเลยทำให้ไฟไหม้ถ่านแรง หลังจากที่ตนได้ปิดเตาถ่านของตนเสร็จแล้วก็เลยเดินทางกลับบ้าน พอมาช่วงเช้าชาวบ้านพูดกันว่า นายสัมพันธ์ (ผู้ตาย) ได้ตกลงไปในเตาถ่านและถูกไฟคลอกเสียชีวิต ไม่คิดเลยว่าจะเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุไว้แล้ว คาดว่าผู้ตายอาจพลาดท่าขณะกำลังลากแผ่นเหล็กมาปิดเตาเผาถ่าน แต่พลาดดินที่เหยียบทรุดทำให้ตกลงไปในเตาเผาถ่านดับอนาถดังกล่าว เบื้องต้นทางญาติไม่ติดใจการเสียชีวิต จึงได้มอบศพให้ทางญาติบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป.

ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน