
จากกรณิ นางกฤติกา ฤทธิขันธ์อายุ33 ปีได้เข้าผ่าฟันคุดที่โรงพยาบาลตากใบจังหวัดนราธิวาสเมื่อปี58 และเกิดเหตุมีการลืมหัวกรอฟันไว้ในเหงือกคนไข้ ไม่สามารถนำออกได้ ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าไม่เป็นไรหากแผลประสานกันชิ้นส่วนดังกล่าวจะหลุดออกเอง. และนางกฤติกาคิดว่าชิ้นส่วนดังกล่าวได้หลุดไปแล้ว. แต่หลังนางกฤติกาได้ไปหาหมอฟันเมื่อต้นปีที่ผ่านมา.เพื่อรักษารากฟันมีการXray กลับพบว่าชิ้นส่วนดังกล่าวยังอยู่

เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา หัวกรอฟันที่ติดอยู่ในเหงือกเกิดการอักเสบมีหนองบริเวณรอบหัวกรอฟัน จนส่งผลให้เหงือกบวมทับฟันจนต้องถอนฟันกรามออก1 ซีก ได้รับความเจ็บปวดอย่างมาก จึงพยายามหาทางรักษาเอาชิ้นส่วนดังกล่าวออกเพราะเกรงจะส่งผลต่อการดำเนินชีวิตอีก เพราะปัจจุบันก็มีอาการปากซีกขวาชาและไม่รู้รสชาติต้องเคี้ยวทางฝั่งซ้าย.

จากนั้น นางกฤติกา ได้เดินทางไปที่ จังหวัดขอนแก่นเพื่อ พบทันตแพทย์ ที่ โรงพยาบาลทันตกรรมคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นใช้เวลาครึ่งชั่วโมงผ่านำหัวกรอฟันออกจากเหงือกคนไข้ออกได้สำเร็จหลัง จากทันตแพทย์ที่โรงพยาบาลตากใบลืมหัวกรอฟันในเหงือกคนไข้5 ปี

และเมื่อคืนที่ผ่านมา(28/06/62) ได้เดินทางกลับบ้านเกิดที่บ้าน 38/1 ม.4 บ้านหัวงัว ต.โพธิ์ศรีสว่าง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด พอเดินทางถึงบ้าน ญาติรอการตอนรับด้วยประเพณีแบบอีสานคือผูกข้อมือด้วยด้ายเพื่อรับขวัญ ญาติและสามีต่างมีรอยยิ้มเพราะต่อไปนางกฤติกา จะได้ดำเนินชีวิตแบบปกติเสียทีเพราะมี่ผ่านมากังวังกับอาการของตัวเองมาตลอด 5 ปี

ในส่วนของอาการล่าสุดนั้น นางกฤติกา ได้บันทึกคลิปส่งให้ผู้สื่อข่าวเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 29/06/62 โดยบอกว่า หลังผ่า 1 วันอาการต่างๆหายไป หูได้ยินชัดเจนชึ้น ลิ้นกับสมองสัมพันธ์กันมากขึ้น โคลนลิ้นไม่เหลืออาการชาใดๆเลย อาการเหมือนเป็นเหน็บแป๊บๆจี้ดๆเหลือแค่ที่ปลายลิ้นเท่านั้น ส่วนฟันและเหลือยังชาอยู่ แก้มถึงกรามหยิบรู้สุกแล้ว จากเมื่อก่อนหยิกยังไม่เจ็บ ที่สำคัญ ลิ้นรับรสได้แล้ว
